จาก : ผลบอลสด ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ระหว่าง เบนฟิก้า 0-1 ไบเออร์ เลเวอร์คูเซิน วันนี้ 6/11/68 – บ้านกีฬา
ค่ำคืนยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกที่ลิสบอนสนามเอสตาดิโอ ดา ลุซ แฟนเหย้าเบนฟิก้าแน่นสนาม แต่สุดท้ายต้องช็อกเมื่อ “ห้างยา” ไบเออร์ เลเวอร์คูเซิน บุกมาบดชนะ 1-0 จากประตูโทนของ ปาทริค ชิก นาที 65 ทั้งที่รูปเกมตลอด 90 นาที เจ้าถิ่นเป็นฝ่ายกดดันมากกว่า ยิงรวมถึง 19 ครั้ง แต่ดันทิ้งโอกาสทองกันเอง ขณะที่ทีมเยือนเล่นงานแบบคมกริบตามสไตล์บอลเยอรมัน ผลนี้ทำให้แฟนบอลที่เช็กสกอร์ผ่านหน้าเว็บ บ้านผลบอล และสัญญาณ ผลบอล สด ต้องอุทานพร้อมกันว่า “เบนฟิก้าพลาดอะไรไป!”
🕐 ครึ่งแรก – เบนฟิก้าบุกเป็นชุด แต่ยังเจาะไม่เข้า
เปิดเกมมา เบนฟิก้าใช้ระบบ 4-2-3-1 ไล่เพรสสูงจัดเต็ม จังหวะต่อบอลสั้นจากแดนกลางของ ราอูล ริออส กับ เลโอ บาร์เรย์โร่ ทำได้เนียนตา เจ้าถิ่นครองบอล 51% ยิงไปแล้วหลายครั้งตั้งแต่ช่วง 15 นาทีแรก โดยเฉพาะลูกสับไกของ ดอดี้ ลูเกบากิโอ ที่บังคับให้ มาร์ค เฟล็คเคน ต้องออกแรงเซฟ
เลเวอร์คูเซินยืนระบบ 3-4-2-1 ตั้งโซนต่ำ รอโต้กลับริมเส้น ผ่านเท้าของ อาร์ตูร์ และ อเลฆานโดร กริมัลโด้ ที่เติมสูงตลอด ครึ่งชั่วโมงแรกพวกเขาแทบไม่มีโอกาสลุ้นจะแจ้ง แต่เกมรับนำโดย โลอิก บาเด้ กับ โยน ควนซาห์ ยังเก็บลูกครอสของเบนฟิก้าได้หมด
ท้ายครึ่งแรกอารมณ์เริ่มเดือด นาที 41 อิเกร์ มาซ่า โดนใบเหลืองจากจังหวะโวยผู้ตัดสิน ซิโมเน่ โซซซา ก่อนจบ 45 นาทีแรกด้วยสกอร์ 0-0 ทั้งที่เจ้าบ้านยิงไปแล้วถึง 10 ครั้ง แต่ความเฉียบคมในกรอบยังไม่มาพร้อม
🕑 ครึ่งหลัง – ชิกลงมาปิดบัญชี เกมรับห้างยาประคองจนจบ
ครึ่งหลังรูปเกมไม่ต่างจากเดิม เบนฟิก้าเดินหน้าบุกต่อเนื่อง ลูเกบากิโอได้โอกาสลากตัดเข้าในหลายครั้ง จนตนเองมาโดนใบเหลืองนาที 62 จากจังหวะเข้าปะทะแรงเกินเหตุ
ฝั่งเลเวอร์คูเซินแก้เกมเร็ว ในนาที 57 กาแสเปอร์ ฮุลมันด์ ส่ง มาลิค ทิลล์มันน์ ลงแทน เคลาดิโอ เอเชเวร์รี และส่ง ปาทริค ชิก ลงแทน ซีดริก โคฟาน เน้นความแข็งแรงในกรอบเขตโทษ ผลทันตา นาที 65 ชิกฉวยจังหวะหลุดเข้าเขตโทษซัดไม่เหลือ เป็นประตูให้ทีมเยือนนำ 1-0 จากโอกาสยิงตรงกรอบเพียงครั้งที่สองของพวกเขา
หลังเสียประตู โชเซ่ มูรินโญ แก้เกมชุดใหญ่ นาที 69 ส่งสามสำรองทั้ง อามาร์ เดดิช, จานลูก้า เพรสเตียนนี และ อันเดรียส เชลเดอรูป์ ลงยกแผง แต่ก็ยังไม่สามารถทะลายกำแพงรับของเลเวอร์คูเซินได้ แถมท้ายเกม นิโกลัส โอตาเมนดี้ ยังโดนใบเหลืองนาที 78 จากการตัดฟาวล์จังหวะโต้กลับ
ช่วงทดเจ็บ 6 นาที เบนฟิก้าบุกแบบโหมสุดตัวแต่ก็ยังไม่ผ่านบล็อกของ บาเด้ และมือกาว เฟล็คเคน สุดท้ายจบเกม เลเวอร์คูเซินบุกคว้าชัย 1-0 คว้าแต้มสำคัญกลับเยอรมนีไปได้แบบโคตรคุ้มค่าเมื่อมองจากรูปเกม
🧾 รายชื่อนักเตะตัวจริงและคะแนน Sofascore
🦅 เบนฟิก้า – ระบบ 4-2-3-1 (เรตติ้งเฉลี่ย 6.82)
ผู้รักษาประตู
- อานาตอลี ทรูบีน – 6.9 เซฟลูกยากสำคัญหลายครั้ง แม้จะโดนยิง 1 ลูกแต่โทษเขาไม่ได้
กองหลัง
- เฟร็ดริก ออร์สเนส – 6.8 เติมเกมรุกทางซ้ายตลอดแต่จังหวะสุดท้ายยังไม่คม
- อันโตนิโอ อราอูโฆ – 7.1 คุมพื้นที่หลังบ้านใช้ได้ ลูกกลางอากาศเหนียวแน่น
- นิโกลัส โอตาเมนดี้ (กัปตัน) – 6.6 อ่านเกมดีแต่มีจังหวะพลาดจนต้องตัดฟาวล์โดนใบเหลืองนาที 78
- เซบาสเตียน ดาห์ล – 6.4 เกมรับพอได้ แต่เติมเกมรุกไม่ดุดัน ก่อนถูกถอดนาที 69
กองกลางตัวรับ
- ราอูล ริออส – 7.1 คุมจังหวะเกมแดนกลาง คือคนเชื่อมบอลจากหลังสู่หน้า
- เลโอ บาร์เรย์โร่ – 6.7 ตัดเกมดีแต่เปลี่ยนจากรับเป็นรุกได้ไม่เร็ว ก่อนโดนเปลี่ยนนาที 69
กองกลางตัวรุก / ริมเส้น
- ดอดี้ ลูเกบากิโอ – 7.5 ตัวอันตรายสุดในแนวรุก ยิงเองสร้างโอกาสเอง แต่ขาดแค่ประตู
- จอร์จี ซูดาคอฟ – 7.2 เลี้ยงกินตัวและแทงทะลุช่องได้เนียนตา เสียดายโดนเปลี่ยนนาที 69
- เอ็นโซ บาร์เรเนเชอา – 7.2 ทำงานหนักริมเส้นฝั่งขวา ทั้งครอสและไล่เพรส
กองหน้า
- วางเกลิส พาฟลิดิส – 5.9 หายจากเกมพอสมควร เจอเซ็นเตอร์ห้างยาปิดตาย
ตัวสำรองที่ลงเล่น
- อามาร์ เดดิช – 6.6 (น.69 แทน บาร์เรย์โร่) เพิ่มสปีดทางขวาแต่ยังหาช่องเปิดไม่ได้
- จานลูก้า เพรสเตียนนี – 6.8 (น.69 แทน ซูดาคอฟ) มีจังหวะลุ้นยิงแต่ยังไม่เฉียบ
- อันเดรียส เชลเดอรูป์ – 6.7 (น.69 แทน ดาห์ล) เติมความสดริมเส้นซ้าย แต่เจอแนวรับเลเวอร์คูเซินปิดไว้ดี
สำรองไม่ได้ลง: ซามูเอล ซัวเรส, โจชัว ไวน์เดอร์, ราฟาเอล โอบราดอร์, อันโตนิโอ ซิลวา, เชา เวโลโซ, เชา เรกู, ดิโอโก เปรีโอสเต, ฟรันโย อีวาโนวิช, เอ็นริเก อเราโฆ
ตัวเจ็บ/ไม่มีชื่อ: บรูมา, อเล็กซานเดอร์ บาห์, มานูเอล ซิลวา, เลอันโดร ซานโตส
🩻 เลเวอร์คูเซิน – ระบบ 3-4-2-1 (เรตติ้งเฉลี่ย 7.16)
ผู้รักษาประตู
- มาร์ค เฟล็คเคน – 8.3 เซฟเน้น ๆ หลายครั้ง คุมพื้นที่ในกรอบดีเยี่ยม เป็นหนึ่งในฮีโร่เกมนี้
กองหลังสามคน
- โลอิก บาเด้ – 8.7 เล่นได้อย่างนิ่งและแข็งแกร่ง ตัดบอลสำคัญตลอด เกมนี้คือหัวใจแนวรับ
- โจ กวนซาห์ – 7.1 ช่วยปิดพื้นที่ทางขวา ไม่เปิดโอกาสให้ลูเกบากิโอเล่นง่าย
- เอ็ดมอนด์ ทาปโซบา – 7.7 เล่นละเอียด อ่านเกมดี แม้โดนใบเหลืองนาที 55 แต่ช่วยเกมรับได้มหาศาล
วิงแบ็กและกองกลาง
- อาร์ตูร์ – 6.6 เติมเกมรุกทางขวา แต่ต้องถอยลงช่วยรับเป็นส่วนใหญ่
- อเลฆานโดร กริมัลโด้ (กัปตัน) – 7.9 ขึ้นลงไม่มีหมด ทั้งเกมรุกเกมรับสร้างอันตรายทุกครั้งที่ได้บอล
- อเล็กซิส การ์เซีย – 6.8 คอยตัดเกมหน้ากองหลัง เล่นง่ายไม่พลาด
- อิเกร์ มาซ่า – 7.1 แม้โดนใบเหลืองจากจังหวะโวย แต่การคุมจังหวะบอลแดนกลางทำได้ดี
แนวรุก
- เคลาดิโอ เอเชเวร์รี – 6.4 หาพื้นที่ได้ดีแต่ยังไม่เปรี้ยง ก่อนถูกถอดนาที 57
- เอมมานูเอล โปคู – 6.8 พยายามลากจี้สร้างความวุ่นวายให้แนวรับเจ้าถิ่น
- ซีดริก โคฟาน – 6.0 เก็บบอลลึกให้เพื่อน แต่โอกาสลุ้นยิงแทบไม่มี ถูกเปลี่ยนออกนาที 57
ตัวสำรองที่ลงเล่น
- มาลิค ทิลล์มันน์ – 6.7 (น.57 แทน เอเชเวร์รี) ลงมาช่วยเก็บบอลโต้กลับ และโดนใบเหลืองจากการฟาวล์หนักนาที 79
- ปาทริค ชิก – 7.7 (น.57 แทน โคฟาน) ซูเปอร์ซับตัวจริง ใช้โอกาสไม่เปลือง ยิงประตูชัยนาที 65
- เอลีสเซ่ เบน เซกีร์ – 6.5 (น.88 แทน โปคู) ลงมาช่วยล็อกเกมริมเส้นช่วงท้าย
สำรองไม่ได้ลง: ยานนิส บลาสวิช, นิคลาส ลอมบ์, แฟร์ดินันด์ โพล, เชอนาเอล เบโลซิย็อง, เจเรไมอาห์ เมนซาห์, มอนเทรล คัลเบร็ธ
ตัวเจ็บ/ติดโทษแบน: เอเซเกียล แฟร์นานเดซ, ลูคัส บาซเกซ, นาธาน เทลล่า, อักเซล เทป, เอเซเกียล ปาลาซิออส (ทั้งหมดบาดเจ็บ), โรเบิร์ต อันดริช (แบน)
📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
ในเชิง วิเคราะห์บอล แท็กติก เกมนี้ชัดเจนว่าเป็นการดวลระหว่างทีมที่เน้นการครองบอลบุกใส่อย่างเบนฟิก้า กับทีมที่เล่นเกมรับโซนลึกแล้วรอโต้กลับตรง ๆ อย่างเลเวอร์คูเซิน
ฝั่งเจ้าถิ่น 4-2-3-1 ของมูรินโญยืนสูงตั้งแต่แดนคู่เซ็นเตอร์ อราอูโฆ–โอตาเมนดี้ ดันขึ้นเกือบกลางสนาม เปิดทางให้ฟูลแบ็กอย่างออร์สเนสและดาห์ลเติมขึ้นพร้อมกัน เมื่อรวมกับคู่กลาง ริออส–บาร์เรย์โร่ ที่ต่อบอลสั้นเคาะสามเหลี่ยมกับตัวรุกด้านหน้า ทำให้เบนฟิก้าครองเกมส่วนใหญ่ และมีจังหวะแทงทะลุช่องให้ลูเกบากิโอใช้สปีดเล่นงานแนวรับห้างยาอยู่เรื่อย ๆ
อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักอยู่ที่ “เกมรุกในกรอบเขตโทษ” พาฟลิดิสโดนเซ็นเตอร์ของเลเวอร์คูเซินประกบติด แทบไม่เคยได้หันหน้าเข้าหาประตูชัด ๆ ทำให้จังหวะจบสกอร์ กลายเป็นการยิงไกลหรือครอสที่แนวรับเยอรมันอ่านทางได้หมด
เลเวอร์คูเซินของฮุลมันด์ปรับมาเล่น 3-4-2-1 เน้นความแน่นของแผงหลังสามคน บาเด้–กวนซาห์–ทาปโซบา ยืนไม่ห่างกันเลย ปิดพื้นที่ระหว่างไลน์ได้ดีมาก เมื่อบอลโยนหรือครอสเข้ามา ทั้งสามคนอ่านเกมและโหม่งเคลียร์ได้แทบทุกครั้ง ขณะที่วิงแบ็ก กริมัลโด้ กับอาร์ตูร์ รับบทหนักทั้งบังลูกครอสและดันขึ้นช่วยโต้กลับริมเส้น
จุดเปลี่ยนของเกมคือการส่ง ทิลล์มันน์ กับ ชิก ลงสนาม นาที 57 จากเดิมที่โคฟานยืนหน้าเป้าแล้วเก็บบอลไม่ได้ ชิกใช้ความแข็งและลูกฉวยโอกาสทำให้แนวรับเบนฟิก้าต้องถอยลึก จังหวะประตู 0-1 มาจากการเคลื่อนตัวฉีกเข้ากรอบเขตโทษแล้วยิงจังหวะเดียว แบบที่ไม่เปิดโอกาสให้ทรูบีนออกมาปิดมุมได้ทัน
เกมรับของเลเวอร์คูเซินในช่วงนำ 1-0 ลงไปตั้งรับลึกกว่าเดิม แต่ยังรักษาระยะห่างไลน์กองหลัง–กองกลางไม่มาก ทำให้ช่องว่างหน้าเขตโทษถูกอุดสนิท เบนฟิก้าแม้จะขยับใส่ตัวรุกเพิ่ม ก็ยังต้องยิงจากนอกเขตเป็นส่วนใหญ่
📈 สถิติการแข่งขัน
แม้สกอร์จะจบที่ 0-1 แต่สถิติชี้ชัดว่าเบนฟิก้าเป็นฝ่าย “ขย้ำแต่ไม่ฆ่า” เจ้าบ้านยิงรวม 19 ครั้ง เข้ากรอบ 6 เทียบกับเลเวอร์คูเซินที่ยิงเพียง 6 ครั้ง เข้ากรอบ 2 แต่หนึ่งในนั้นกลายเป็นประตูชัยของชิก ครองบอลเบนฟิก้า 51% ต่อ 49% และต่อบอลถึง 434 ครั้ง ด้วยความแม่นยำสูงถึง 93% ขณะที่เลเวอร์คูเซินจ่ายบอล 399 ครั้ง ความแม่นยำ 91%
ด้านเกมรับ เลเวอร์คูเซินเสียฟาวล์ 7 ครั้งโดนใบเหลือง 3 ใบ (มาซ่า, ทาปโซบา, ทิลล์มันน์) ขณะที่เบนฟิก้าทำฟาวล์ 9 ครั้ง โดนใบเหลือง 2 ใบจากลูเกบากิโอและโอตาเมนดี้ สถิติที่น่าเจ็บใจแฟนเหย้าคือเตะมุม เบนฟิก้าได้ถึง 6 ครั้ง ส่วนเลเวอร์คูเซินไม่มีเลย แต่เจ้าบ้านกลับใช้จุดแข็งนี้กดดันให้เป็นประตูไม่ได้
⏱️ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚠️ 41′ – อิเกร์ มาซ่า (เลเวอร์คูเซิน) โดนใบเหลืองจากการโวยผู้ตัดสิน
- 🟨 55′ – เอ็ดมอนด์ ทาปโซบา (เลเวอร์คูเซิน) รับใบเหลืองจากการตัดฟาวล์
- 🔁 57′ – เลเวอร์คูเซินเปลี่ยนตัวสองราย มาลิค ทิลล์มันน์ ลงแทน เคลาดิโอ เอเชเวร์รี และ ปาทริค ชิก ลงแทน ซีดริก โคฟาน
- 🟨 62′ – ดอดี้ ลูเกบากิโอ (เบนฟิก้า) โดนใบเหลืองจากการเข้าปะทะแรง
- ⚽ 65′ – ปาทริค ชิก วิ่งสอดเข้ากรอบเขตโทษก่อนซัดให้เลเวอร์คูเซินนำ 0-1 กลายเป็นประตูชัยของเกม
- 🔁 69′ – เบนฟิก้าปรับเกม ส่ง จานลูก้า เพรสเตียนนี แทน จอร์จี ซูดาคอฟ, อามาร์ เดดิช แทน เลโอ บาร์เรย์โร่ และ อันเดรียส เชลเดอรูป์ แทน เซบาสเตียน ดาห์ล
- 🟨 78′ – นิโกลัส โอตาเมนดี้ (เบนฟิก้า) รับใบเหลืองจากการฟาวล์ตัดเกม
- 🟨 79′ – มาลิค ทิลล์มันน์ (เลเวอร์คูเซิน) โดนใบเหลืองจากการฟาวล์กลางสนาม
- 🔁 88′ – เลเวอร์คูเซินส่ง เอลีสเซ่ เบน เซกีร์ ลงมาแทน เอมมานูเอล โปคู ช่วยล็อกเกมริมเส้นช่วงท้าย
🌟 Player of the Match – โลอิก บาเด้ กำแพงเหล็กห้างยา
Sofascore ยกให้ โลอิก บาเด้ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟเลเวอร์คูเซินเป็น Man of the Match ด้วยเรตติ้งสูงถึง 8.7 และบ้านกีฬาเองก็เห็นด้วยเต็ม ๆ ตลอด 90 นาที บาเด้คือคนที่ทำให้พาฟลิดิสเล่นไม่ออก ชนะดวลลูกกลางอากาศแทบทุกครั้ง บล็อกลูกยิงสำคัญหลายจังหวะ ที่สำคัญคือความนิ่งเมื่อทีมต้องเล่นเกมรับลึกในช่วงท้าย เขาคุมไลน์กองหลังสามคนให้ยืนถูกจังหวะ ไม่ปล่อยให้ตัวรุกเบนฟิก้าหลุดเข้าไปเล่นหนึ่งต่อหนึ่งกับเฟล็คเคนเลย
ถ้าไม่มีบาเด้ เกมนี้เลเวอร์คูเซินอาจไม่รอดออกมาพร้อมสามแต้มเต็มอย่างแน่นอน
📉 สถานการณ์ในตารางคะแนนยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ผลนัดนี้ทำให้ “ห้างยา” ไบเออร์ เลเวอร์คูเซิน ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 21 ของตารางรวมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก แข่ง 4 นัด ชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 1 ยิงได้ 6 เสีย 10 มี 5 คะแนน ภาพรวมยังอยู่ในโซนกลาง ๆ แต่สามแต้มจากการบุกชนะเบนฟิก้านอกบ้านถือว่าสำคัญสุด ๆ เพราะทำให้พวกเขายังมีลุ้นไต่อันดับไปโซนเพลย์ออฟต่อไป
ฝั่งเบนฟิก้าสถานการณ์หนักหนา อยู่อันดับ 35 จาก 36 ทีม แข่ง 4 นัด แพ้รวด ยังไม่มีแม้แต่แต้มเดียว ยิงได้แค่ 2 เสียถึง 8 ประตู เส้นทางการลุ้นไปต่อในรอบน็อกเอาต์แทบจะริบหรี่ ต้องหวังเก็บชัยชนะให้ได้ทุกนัดที่เหลือ และลุ้นผลคู่แข่งไปพร้อมกัน
📅 ตารางบอลนัดถัดไปของทั้งสองทีม
สำหรับโปรแกรมในลีกและบอลถ้วยต่อจากนี้ แฟนบอลที่ชอบดู ตารางบอล และวางแผนเชียร์ล่วงหน้าต้องจดไว้ให้ดี
ฝั่งเบนฟิก้า มีเกมลีกสำคัญในศึก Liga Portugal Betclic เปิดบ้านพบ Casa Pia วันที่ 10/11/25 เวลา 03:30 น. ตามด้วยเกมบอลถ้วย Taça de Portugal ออกไปเยือน Atletico CP วันที่ 22/11/25 เวลา 03:30 น. สองแมตช์นี้คือโอกาสเรียกความมั่นใจกลับมาก่อนหันไปโฟกัสเกมยุโรปนัดถัดไป
ด้านเลเวอร์คูเซิน จะกลับไปลุยบุนเดสลีกา เริ่มจากเปิดบ้านรับการมาเยือนของ Heidenheim วันที่ 08/11/25 เวลา 21:30 น. ก่อนยกพลไปเยือน Wolfsburg วันที่ 22/11/25 เวลา 21:30 น. ซึ่งทั้งสองเกมอาจมีการโรเตชันแต่ยังสำคัญต่อการลุ้นพื้นที่หัวตารางเยอรมนีอย่างมาก
📺 ติดตามทุกมุมมอง บ้านผลบอล ได้ที่บ้านกีฬา
ใครพลาดแมตช์นี้บอกเลยว่าเสียดาย เพราะรูปเกมโคตรมันส์ เบนฟิก้าบุกเป็นพายุแต่สุดท้ายโดนทีเด็ดห้างยาบุกเชือดแบบเจ็บลึก หากอยากตามเช็กสกอร์สด ไฮไลต์ และบทวิเคราะห์หลังเกมแบบเข้มข้นสไตล์นักข่าวบอลไทย เจอกันได้ที่บ้านกีฬา อัปเดตทั้งสกอร์สด เช็ก บ้านผลบอล โปรแกรมหน้า และเกาะทุกประเด็นร้อนของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกให้ครบจบในที่เดียว
