ไฟยังไม่ทันมอดจากศึก คาราบาว คัพ รอบ 4 ก็มีดราม่าร้อนแรงระอุออกมาจากฝั่ง เชลซี เมื่อ เอ็นโซ่ มาเรสก้า กุนซือชาวอิตาเลียนของ “สิงห์บลูส์” ถึงกับหัวเสียสุดขีด หลัง เลียม ดีแลป ศูนย์หน้าดาวรุ่งเลือดร้อนถูกไล่ออกจากสนามด้วยใบแดงสุดงี่เง่า ทั้งที่เพิ่งคัมแบ็กกลับมาลงเล่นได้ไม่นาน จนเจ้าตัวถึงกับระเบิดอารมณ์จวกลูกทีมออกสื่อว่า “เล่นโง่!” แบบไม่เกรงใจใคร
⚽ ดีแลปคืนสนามแต่เล่นพังเอง
เกมที่สนาม โมลินิวซ์ สเตเดียม ระหว่าง วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส กับ เชลซี จบลงด้วยชัยชนะสุดมันของทีมเยือน 4-3 พร้อมตั๋วผ่านเข้าสู่รอบถัดไปของ คาราบาว คัพ แต่สิ่งที่แฟนบอลพูดถึงหลังเกมกลับไม่ใช่ชัยชนะ หากเป็นพฤติกรรมของ เลียม ดีแลป ที่ถูกไล่ออกในเวลาเพียง 18 นาทีหลังถูกเปลี่ยนลงสนาม
ดีแลปถูกส่งลงเล่นในนาทีที่ 61 เพื่อเรียกจังหวะเกมและเพิ่มความสดในแนวรุก หลังหายหน้าไปนานตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมเพราะอาการบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า ทว่าแทนที่จะกลายเป็นจุดเปลี่ยน เขากลับกลายเป็น “จุดดับ” ของทีม
ในนาทีที่ 79 เจ้าตัวปะทะคารมอย่างดุเดือดกับ เยร์ซอน มอสเกร่า กองหลังเจ้าถิ่น ก่อนจะผลักคู่แข่งล้มต่อหน้าผู้ตัดสินจนโดนใบเหลืองแรกเตือน จากนั้นเพียง 7 นาทีต่อมา ดีแลปกลับทำเรื่องน่าเขกหัวอีกครั้งเมื่อกระโดดขึ้นโหม่งแล้วกางศอกใส่ เอ็มมานูเอล อั๊กบาดู จนกรรมการควักใบเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดงไล่ออกทันที
🔥 มาเรสก้าฟิวส์ขาด จวกไม่ไว้หน้า
หลังเกม เอ็นโซ่ มาเรสก้า ถึงกับไม่อ้อมค้อมใด ๆ กับสื่อ โดยระเบิดอารมณ์ใส่ลูกทีมแบบตรงไปตรงมา “มันเป็นใบแดงที่งี่เง่ามาก ๆ มันไม่จำเป็นต้องทำอะไรแบบนั้นเลย เขาสมควรโดนแล้วล่ะ มันเป็นการฟาวล์ที่งี่เง่า เราควรจะเลี่ยงเรื่องแบบนั้นได้แท้ ๆ ผมสนับสนุนการตัดสินของกรรมการกับการแจกใบแดงครั้งนี้สุดตัว”
พร้อมกันนั้นมาเรสก้ายังเผยว่า “หลังจากเขาได้ใบเหลืองใบแรกไปแล้วน่ะผมก็กำชับกับเขาไปตั้ง 4 หรือ 5 ครั้งเห็นจะได้ว่าให้เล่นแบบใจเย็น ๆ เข้าไว้ แต่เลียมคือคนที่อยู่ในสนาม เขาเล่นเพื่อตัวเองเป็นหลักและไม่ฟังเสียงรอบข้างเขา”
🚨 สถิติชวนปวดหัว ใบแดงพุ่งกระฉูด
สิ่งที่น่ากังวลคือ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เชลซีต้องเล่นโดยเหลือผู้เล่น 10 คน เพราะจากสถิติพบว่า ใน 9 นัดหลังสุด ของทัพ “สิงห์บลูส์” มีนักเตะโดนใบแดงถึง 6 ใบ ซึ่งถือเป็นสัญญาณชัดเจนถึงปัญหาวินัยในทีม
ส่วนตัวของ เลียม ดีแลป เองก็มีชื่อเสียงเรื่องความดุดันเกินเหตุอยู่แล้ว โดยในฤดูกาลก่อนตอนค้าแข้งให้ อิปสวิช ทาวน์ เขาโดนใบเหลืองใน พรีเมียร์ลีก ถึง 12 ใบตลอดซีซั่น และนี่คือสิ่งที่มาเรสก้าต้องจัดการให้เด็ดขาด ก่อนจะกลายเป็นปัญหาเรื้อรังที่ทำให้ทีมเสียหายต่อเนื่อง
🗣 มาเรสก้ารับได้บางกรณี แต่ไม่ใช่แบบนี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า “เชลซีโดนใบแดงบ่อยแบบนี้น่าอายไหม?” มาเรสก้าตอบอย่างชัดเจนว่า “ผมยอมรับได้กับจังหวะใบแดงอย่างในเกมกับ ไบรท์ตัน หรือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะมันเป็นจังหวะที่ตัดสินใจได้ยาก แต่ใบแดงอย่างในเกมกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ หรือในวันนี้น่ะที่จริงเราสามารถเลี่ยงไม่ให้มันเกิดขึ้นได้”
กุนซืออิตาเลียนทิ้งท้ายอย่างเดือดว่า “ถ้าเป็นใบแดงแบบวันนี้น่ะมันใช้คำว่าน่าอับอายได้อย่างเต็มปาก เพราะมันมาจากการโดนใบเหลือง 2 ใบในระยะเวลาแค่ 5 นาทีหรือ 10 นาที (ตามความจริงคือ 7 นาที) ซึ่งจริง ๆ แล้วมันก็เป็นจังหวะที่เราสามารถเลี่ยงทำให้ไม่เกิดใบเหลืองได้ทั้ง 2 จังหวะแท้ ๆ”
📊 วิเคราะห์มุมมองจาก บ้านกีฬา
ชัยชนะ 4-3 เหนือวูล์ฟส์อาจช่วยให้เชลซีเข้ารอบใน คาราบาว คัพ ได้อย่างสวยงาม แต่ภาพรวมของเกมกลับสะท้อนถึงปัญหาวินัยและสมาธิของนักเตะในยุค มาเรสก้า ได้อย่างชัดเจน การโดนใบแดงบ่อยครั้งไม่เพียงทำให้ทีมต้องเล่นแบบเสียเปรียบ แต่ยังทำลายความมั่นใจและสมาธิของเพื่อนร่วมทีมที่ต้องไล่ประคองเกมให้จบ
เชลซีในเวลานี้อยู่ในช่วงสร้างใหม่ และมาเรสก้าต้องรับมือกับแรงกดดันจากทั้งแฟนบอลและสื่อ แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือเขาต้องการทีมที่ “เล่นด้วยสมอง ไม่ใช่อารมณ์” เพื่อพาสโมสรกลับคืนสู่เส้นทางแห่งความยิ่งใหญ่อีกครั้ง
บ้านกีฬา ฝากไว้ก่อนเกมเตะ
การระเบิดอารมณ์ของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า อาจฟังดูแรง แต่สำหรับทีมใหญ่ที่มีเป้าหมายชัดเจน การปลูกฝังวินัยคือสิ่งสำคัญไม่แพ้แท็คติก และนี่คือสิ่งที่แฟนบอล “สิงห์บลูส์” ต้องจับตาให้ดี ว่าโค้ชคนนี้จะสามารถเปลี่ยนเลือดร้อนอย่าง เลียม ดีแลป ให้กลายเป็นนักเตะที่ใช้พลังบวกในสนามได้หรือไม่ ติดตามทุกความเคลื่อนไหวฟุตบอลระดับโลกได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา

