เดือดถึงขั้นฟ้อง! สมาคมฯ ฟัน “นรา ยูไนเต็ด” โทษหนัก 11 กระทง หลังเหตุวุ่นเกมลีกคัพ ทำร้ายผู้ตัดสิน

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

คณะวินัยฯ ลงดาบ “นรา ยูไนเต็ด” โทษรวมกว่า 2 แสนบาท

เกิดเหตุเดือดในศึก เมืองไทย คัพ 2025/26 รอบคัดเลือก เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา เกมที่ นรา ยูไนเต็ด เปิดบ้านพ่าย พีที สตูล ยูไนเต็ด 0-1 กลายเป็นประเด็นใหญ่หลังเกิดความวุ่นวายและการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ผู้ตัดสินหลังจบเกม ล่าสุด คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้สรุปผลการประชุมครั้งที่ 10 ของฤดูกาล 2025/26 และมีมติลงโทษ “ทัพกอและพิฆาต” รวมถึงทีมงานและแฟนบอลถึง 11 กระทงเต็มๆ

สรุปเหตุวุ่นกลางสนามห้วยม้า เกมเดือดเกินเกม

ในเกมดังกล่าว มีเหตุการณ์ผิดปกติถึง 7 จุดหลัก เริ่มตั้งแต่ วสัณห์ สังขพันธุ์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนของนรา ยูไนเต็ด ด่าผู้ตัดสินหลังจบเกม จากนั้นกลุ่มกองเชียร์เจ้าบ้านเริ่มสร้างความวุ่นวาย ปาขวดน้ำลงสนาม และมีเหตุการณ์รุนแรงต่อเนื่องเมื่อ อาลีฟ เปาะจิ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน ใช้วิทยุสื่อสารฟาดเข้าที่ศีรษะของผู้ตัดสินจนได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้แฟนบอลบางส่วนยัง สาดน้ำใส่ผู้ตัดสินที่ 4 และบางคนถึงขั้น เตะผู้ตัดสินจากด้านหลัง บริเวณต้นขาเหนือหัวเข่า พร้อมขว้างขวดน้ำใส่ศีรษะซ้ำอีกหนึ่งครั้ง

สถานการณ์ไม่หยุดแค่นั้น เมื่อผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 ถูกแฟนบอลปาขวดน้ำใส่ระหว่างเดินเข้าห้องอุโมงค์ และในระหว่างทางขึ้นบันได ผู้ตัดสินหลักยังโดน ต่อยเข้าที่ใบหน้าและดวงตาข้างขวา จนเกิดรอยช้ำและตาแดงอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่กลุ่มกองเชียร์จะ ล้อมผู้ตัดสินไว้ในสนามนานเกือบ 2 ชั่วโมงเต็ม (1 ชั่วโมง 58 นาที) จนต้องระดมเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมสถานการณ์

คณะวินัยฯ ฟัน 11 ข้อโทษหนัก “นรา ยูไนเต็ด”

จากรายงานของผู้ควบคุมการแข่งขันและหลักฐานที่ชัดเจน คณะกรรมการวินัยฯ มีมติลงโทษ นรา ยูไนเต็ด และบุคลากรที่เกี่ยวข้องรวม 11 ข้อ ดังนี้

  • วสัณห์ สังขพันธุ์ หัวหน้าผู้ฝึกสอน แบน 4 นัด ปรับเงิน 20,000 บาท
  • อาลีฟ เปาะจิ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน แบน 12 นัด ปรับ 40,000 บาท
  • กองเชียร์ที่ขว้างขวดน้ำครั้งแรก ปรับ 20,000 บาท
  • กองเชียร์อีกกลุ่มที่ขว้างขวดน้ำซ้ำ (ต่างกรรมต่างวาระ) ปรับ 20,000 บาท
  • กองเชียร์ที่ทำร้ายร่างกายไม่ถึงขั้นบาดเจ็บสาหัส ปรับ 16,666 บาท
  • สโมสรนรา ยูไนเต็ด บกพร่องด้านการรักษาความปลอดภัย ปรับ 16,666 บาท
  • กองเชียร์ที่ทำร้ายจนผู้อื่นได้รับบาดเจ็บชัดเจน ปรับ 33,333 บาท
  • สโมสรนรา ยูไนเต็ด ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ ปรับ 33,333 บาท พร้อมห้ามใช้สนามเหย้า 1 นัด
  • กองเชียร์ขัดขวางและรุมล้อมเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ปรับ 20,000 บาท
  • สโมสรไม่จัดเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยเพียงพอ ทำให้เจ้าหน้าที่ถูกล้อม ปรับ 10,000 บาท และห้ามใช้สนามเหย้าเพิ่มอีก 1 นัด
  • สโมสรนรา ยูไนเต็ด ปล่อยให้มีการขัดขวางและคุกคามเจ้าหน้าที่จนตกอยู่ในภาวะไม่ปลอดภัยเกือบ 2 ชั่วโมง ปรับ 16,666 บาท

รวมแล้ว นรา ยูไนเต็ด ต้องชำระค่าปรับทั้งสิ้น 246,664 บาท พร้อมคำสั่งให้ย้ายสนามแข่งขันเกมเหย้า 2 นัดถัดไป และ ห้ามแฟนบอลเข้าชมทั้งทีมเหย้าและทีมเยือน เพื่อเป็นการลงโทษทางวินัยและความปลอดภัยขั้นสูงสุด

สมาคมฯ เอาจริง ย้ำไม่ยอมให้ความรุนแรงเกิดในสนามไทย

เหตุการณ์ครั้งนี้กลายเป็นตัวอย่างชัดเจนของความเข้มงวดจากสมาคมฯ ที่ต้องการยกระดับมาตรฐานฟุตบอลไทยให้เทียบเท่าระดับสากล การใช้ความรุนแรงหรือการคุกคามผู้ตัดสินถือเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้เด็ดขาด สมาคมฯ ยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาและโปร่งใส เพื่อให้ฟุตบอลไทยเป็นกีฬาที่ปลอดภัยและมีความยุติธรรม

มุมมองจากวงการลูกหนัง: เหตุสลดที่ไม่ควรเกิดขึ้น

หลายฝ่ายในวงการลูกหนังไทยต่างออกมาแสดงความเห็นว่า การทำร้ายผู้ตัดสินไม่เพียงส่งผลเสียต่อสโมสร แต่ยังทำลายภาพลักษณ์ของฟุตบอลไทยโดยรวม โดยเฉพาะในช่วงที่ไทยกำลังพยายามพัฒนาเข้าสู่ระบบลีกอาชีพอย่างเต็มรูปแบบ เหตุการณ์นี้จึงเป็น “เสียงเตือน” ให้ทุกทีมและแฟนบอลตระหนักถึงความรับผิดชอบของตนในทุกแมตช์

ฟุตบอลไทยต้องเดินหน้าด้วยสปิริต ไม่ใช่ความเดือด

ฟุตบอลคือเกมแห่งแพสชัน แต่ความแพสชันนั้นต้องอยู่บนพื้นฐานของ “สปิริต” และ “ความเคารพ” ทั้งต่อคู่แข่งและผู้ตัดสิน การมีอารมณ์ร่วมเป็นสิ่งดี แต่เมื่อเลยเส้นไปจนเกิดความรุนแรง ย่อมสร้างผลเสียมากกว่าผลดี การสร้างวัฒนธรรมแฟนบอลที่รู้ขอบเขตคือสิ่งสำคัญที่สุดหากต้องการให้ไทยลีกเดินหน้าอย่างมั่นคง

ความปลอดภัยคือหัวใจของวงการฟุตบอล

จากเหตุการณ์นี้ สมาคมฯ เตรียมพิจารณาเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดยิ่งขึ้น ทั้งในระดับไทยลีกและฟุตบอลถ้วย เพื่อให้ทุกฝ่ายมั่นใจว่าทุกสนามในประเทศไทยคือ “พื้นที่ปลอดภัย” สำหรับนักเตะ ผู้ตัดสิน และแฟนบอลทุกคน

แฟนบอลต้องร่วมกันรักษาภาพลักษณ์ลูกหนังไทย

ฟุตบอลเป็นมากกว่าการแข่งขัน มันคือวัฒนธรรมที่สะท้อนความมีน้ำใจนักกีฬาและความเป็นอารยะ การกระทำของแฟนบอลกลุ่มเล็กๆ ไม่ควรทำลายชื่อเสียงของสโมสรหรือจังหวัด การร่วมมือกันสร้างบรรยากาศเชียร์อย่างมีมารยาทจะเป็นพลังขับเคลื่อนให้ฟุตบอลไทยก้าวไปข้างหน้าอย่างสง่างาม ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของวงการลูกหนังได้ที่ ข่าวบอลไทยบ้านกีฬา ศูนย์รวมข่าวฟุตบอลที่เข้มข้นที่สุดของแฟนบอลไทย

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา