แรชฟอร์ดเปิดใจ! ชี้ยุคโซลชาคือช่วงพีคสุดในชีวิตค้าแข้ง ต่างจากอโมริมที่ดร็อปจนต้องลาบาร์ซ่า

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

ยุคทองของแรชฟอร์ดในสีเสื้อ “ปีศาจแดง”

มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าคนดังของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า ช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในอาชีพนักฟุตบอลคือการได้ลงเล่นภายใต้การคุมทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา อดีตผู้จัดการทีมขวัญใจแฟนผี ที่พาทีมเล่นฟุตบอลเกมรุกสนุก เร้าใจ และช่วยให้เขากลายเป็นหนึ่งในแข้งระดับแนวหน้าของยุโรปในเวลานั้น

ในยุคของโซลชา แรชฟอร์ดระเบิดฟอร์มอย่างร้อนแรง ทั้งยิง ทั้งจ่าย สร้างผลงานส่วนตัวโดดเด่นจนเป็นตัวหลักของทีมชาติอังกฤษ ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ถูกยกให้เป็น “กุนซือ–ลูกศิษย์” ที่มีความเข้าใจกันเป็นพิเศษ และนั่นคือช่วงเวลาที่เจ้าตัวบอกว่า “รู้สึกเป็นอิสระและมีความสุขกับฟุตบอลมากที่สุดในชีวิต”

ยอมรับตรง! ยุค “อโมริม” ไม่อยู่ในแผนจนต้องย้าย

หลังจากการเปลี่ยนผ่านของทีมในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และการเข้ามาของกุนซือใหม่อย่าง รูเบน อโมริม ดูเหมือนชื่อของแรชฟอร์ดจะไม่อยู่ในแผนการทำทีมอีกต่อไป เขาถูกปล่อยให้ แอสตัน วิลล่า ยืมตัวในช่วงครึ่งหลังของซีซั่นก่อน และล่าสุดย้ายไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า แบบยืมตัวในฤดูกาลปัจจุบัน เพื่อโอกาสในการลงสนามอย่างต่อเนื่อง

การตัดสินใจนี้ของอโมริมสร้างความประหลาดใจให้กับแฟนบอลจำนวนมาก เนื่องจากแรชฟอร์ดยังเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีศักยภาพสูงและเป็นไอคอนของสโมสร แต่การเปลี่ยนแปลงในแผนการเล่นและสไตล์ฟุตบอลทำให้เขาต้องมองหาความท้าทายใหม่ในต่างแดน

ฟอร์มร้อนแรงในลีกสเปน – ย้ำชัดรักโซลชาที่สุด

ภายหลังการย้ายไปค้าแข้งกับ บาร์ซ่า ดาวเตะวัย 27 ปีเริ่มกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เขาทำประตูสำคัญหลายลูก พร้อมแอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีม จนสื่อสเปนเริ่มพูดถึงเขาในฐานะ “อาวุธลับจากอังกฤษ” ที่กำลังฟื้นคืนชีพ

ล่าสุด แรชฟอร์ดให้สัมภาษณ์กับ TV2 สื่อชื่อดังของนอร์เวย์ ถึงช่วงเวลาที่เขาประทับใจที่สุดในอาชีพค้าแข้ง และไม่ลังเลที่จะตอบชื่อ โซลชา ว่าเป็นกุนซือที่ทำให้เขามีความสุขมากที่สุดตั้งแต่สวมเสื้อแมนยู

“โอเล่ เป็นคนที่พิเศษ ผมรักการลงเล่นให้เขา ผมสามารถพูดแทนนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด หลายรายได้เลยว่าเราสนุกที่ได้เล่นให้เขา”
“เราเล่นฟุตบอลได้ดีในยุคของ โซลชา มันเป็นช่วงที่ผมประสบความสำเร็จมากโดยส่วนตัว เขาเป็นคนที่พิเศษ ผมไม่มีคำพูดแย่ๆเกี่ยวกับเขา”

คำพูดของแรชฟอร์ดสะท้อนถึงความผูกพันและความเคารพที่มีต่อโซลชาอย่างชัดเจน ซึ่งไม่เพียงเป็นผู้จัดการทีม แต่ยังเป็นคนที่เข้าใจหัวใจของนักเตะ และเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เล่นด้วยความมั่นใจ

ย้อนสถิติยุค “โซลชา” กับแมนยู

ในยุคของโซลชา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยกลับมาลุ้นแชมป์อีกครั้ง เขาพาทีมจบอันดับ ท็อปโฟร์ถึงสองฤดูกาล และยังเข้าชิงถ้วย ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ฤดูกาล 2020/21 แม้สุดท้ายจะพ่าย บียาร์เรอัล ด้วยการดวลจุดโทษหลังเสมอกัน 1-1 แต่แฟนบอลจำนวนมากยังคงจดจำสไตล์การเล่นที่เต็มไปด้วยความดุดันและความกล้าในเกมรุก ซึ่งแตกต่างจากยุคหลัง ๆ ที่ทีมต้องปรับโครงสร้างใหม่

บทเรียนจากความเปลี่ยนแปลงของ “ปีศาจแดง”

สิ่งที่เกิดขึ้นกับแรชฟอร์ดคือภาพสะท้อนของความเปลี่ยนแปลงในโลกฟุตบอล ที่ไม่มีอะไรแน่นอน แม้แต่นักเตะที่เคยเป็นขวัญใจแฟนบอลก็อาจต้องออกจากทีมเมื่อแผนการเล่นเปลี่ยนไป แต่ในอีกด้านหนึ่ง นี่คือโอกาสใหม่ในการพิสูจน์ตัวเอง และการออกไปเล่นในสเปนครั้งนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการกลับมาที่ยิ่งใหญ่ของเขาในอนาคต

แฟนบอลทั่วโลกต่างเฝ้าดูว่า “มาร์คัส แรชฟอร์ด” จะสามารถกู้ศรัทธาและเรียกฟอร์มระดับโลกกลับมาได้หรือไม่ หลังจากได้แรงบันดาลใจจากยุคทองของเขาในมือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา

ติดตามทุกความเคลื่อนไหวในโลกฟุตบอล พร้อมบทวิเคราะห์เจาะลึกและข่าวเด่นทุกลีก ได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา