เมื่อคืนที่ผ่านมา ท้องฟ้าทั้งภาคตะวันออก–ภาคกลางสะดุ้งพร้อมกันกับ “ดวงไฟสว่างวาบ” พุ่งฉีกฟ้า ก่อนตามด้วยเสียงดังคล้ายระเบิดและแรงสะเทือน ชาวพัทยา ชลบุรี ระยอง และกรุงเทพฯ ต่างโพสต์คลิป “ลูกไฟสีเหลืองส้ม” ลากหางยาวก่อนดับหาย น่าตื่นตะลึงราวฉากในหนังไซไฟ แต่ข่าวดีคือ—เหตุการณ์นี้ “ไม่อันตราย” และคือหนึ่งใน Fireball Event ที่สวย หายาก และมีคุณค่าทางวิทยาศาสตร์สุดๆ ตามคำยืนยันของ สมาคมดาราศาสตร์ไทย ซึ่งระบุว่ามีความเป็นไปได้สูงว่าเป็น “สะเก็ดดาวหางโบราณ” จาก ฝนดาวตกเทาริด (Taurids) ไม่เกี่ยวกับ “ดาวหางเลมมอน” ที่อยู่ไกลโลกกว่า 90 ล้านกิโลเมตรอย่างสิ้นเชิง

ในเวลาไล่เลี่ยกัน สื่อไทยหลายสำนักรายงานตรงกันถึง “ลูกไฟขนาดใหญ่พร้อมเสียงระเบิด” และชี้ว่าแหล่งกำเนิดมีแนวโน้มโยงกับฝนดาวตกเทาริด ชุดเศษซากขนาดใหญ่ที่เชื่อว่าแตกตัวมาจากดาวหางยุคโบราณ ซึ่งเคยก่อ “ปีไฟลูกไฟ” มาแล้วหลายครั้งในประวัติศาสตร์สังเกตการณ์ของโลก เช่น ช่วง พ.ศ. 2507, 2548 และ 2558 และมีสัญญาณว่าปี พ.ศ. 2568 อาจเกิดรอบใหญ่ซ้ำอีกครั้งด้วย
ฝนดาวตกเทาริดคืออะไร ทำไมถึง “ไฟลุก” สว่างกว่าปกติ
ฝนดาวตกเทาริดมีต้นทางจาก ดาวหาง 2P/Encke ที่ทิ้งเศษฝุ่น–ก้อนกรวด–ชิ้นส่วนหินไว้เป็น “สายธารอุกกาบาต” โคจรรอบดวงอาทิตย์นานนับพันปี ส่วนที่ทำให้เทาริด “ขึ้นชื่อลือชา” คือปรากฏการณ์ที่โลกเราบางปีจะพุ่งผ่าน “ก้อนเม็ดใหญ่” ของสายธารนี้ที่เรียกว่า resonant swarm ซึ่งเกิดจากแรงโน้มถ่วงดาวพฤหัสบดีคอย “กวาด” ให้เศษซากหนาแน่นในบางช่วง เมื่อโลกพุ่งฝ่าเข้าไป เราจึงเห็น ดาวตกสว่างวิบวับระดับลูกไฟ (fireballs) มากกว่าปกติแบบชัดเจน นักดาราศาสตร์เคยบันทึก “ปีฝูงเทาริด” ครั้งสำคัญในปี 1998, 2005 และ 2015 และคาดการณ์ได้ล่วงหน้าจากแบบจำลองวงโคจรของสายธารเทาริด
เมื่อเศษวัตถุขนาดตั้งแต่ลูกกอล์ฟถึงก้อนหินย่อมๆ พุ่งเข้าสู่บรรยากาศที่ความเร็วหลายสิบกิโลเมตรต่อวินาที อากาศด้านหน้าถูกอัดจนร้อนจัด วัตถุสว่างวาบกลายเป็นลูกไฟ และบางชิ้นอาจเกิด “เสียงระเบิดอากาศ” หากแตกตัวหรือชะลอความเร็วรวดเร็ว—จึงไม่น่าแปลกที่คนจำนวนมากเมื่อคืนจะได้ยิน “ตู้ม!” พร้อมแรงสะเทือนเล็กน้อย ก่อนที่ลูกไฟจะดับหายไปสูงเหนือพื้นดินหลายสิบกิโลเมตร เหตุการณ์ทำนองนี้ถูกบันทึกคลิปในไทยหลายพื้นที่เมื่อคืนด้วย
ไทม์ไลน์เหตุการณ์ “ลูกไฟเทาริด” 26 ตุลาคม 2568 (โดยสังเขป)
• ประมาณ 00:30 น. มีรายงานเห็นดวงไฟสว่างเคลื่อนเร็วบนฟ้าในหลายจังหวัดฝั่งตะวันออกและพื้นที่ใกล้เคียง ก่อนเกิดเสียงดังคล้ายระเบิดและแรงสะเทือน
• เช้ามืด–เช้าวันที่ 26 ต.ค. 68 สมาคมดาราศาสตร์ไทยชี้แจงว่า “ไม่ใช่ดาวหางเลมมอน” แต่มีความเป็นไปได้สูงว่าเป็น “สะเก็ดดาวหางโบราณจากฝนดาวตกเทาริด” พร้อมย้ำว่า “ไม่อันตราย” และจัดอยู่ในกลุ่ม Fireball Event ที่หายากและสวยงามมาก

ทำไมปีนี้(2568)ถึงคึกคักกว่าปกติ
จากทั้งหลักฐานภาคสนามและงานวิชาการในอดีต ปีที่โลกตัดผ่านก้อนเม็ดใหญ่ของสายธารเทาริดจะมีโอกาสเห็น fireballs เพิ่มขึ้นเด่นชัด เหมือนปี 2005 และ 2015 ที่เคยรายงานลูกไฟทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย นักวิจัยเรียกช่วงดังกล่าวว่า “swarm years” และชี้ว่ากลไกหลักมาจากเศษซากเทาริดที่ถูก “กักด้วยแรงโน้มถ่วง” ให้รวมหนาแน่นในตำแหน่งวงโคจรบางช่วง เมื่อโลกเข้าใกล้ตำแหน่งนั้น—เราจึงมีลุ้นลูกไฟมากเป็นพิเศษนั่นเอง
ดูยังไงให้ฟิน ปลอดภัย และได้ภาพสวยแบบมือโปร
ในฐานะสาวบ้านกีฬา—ขอชวนทุกคนเก็บโมเมนต์ท้องฟ้าให้จุใจ ด้วยทริคที่ทั้งง่ายและได้ผล
- เลือกเวลาถูกจังหวะ ปลายตุลาคม–ต้นพฤศจิกายน คือช่วงทองของ ฝนดาวตกเทาริด และ “ดาวตกเทาริดภาคเหนือ–ใต้ (Northern/Southern Taurids)” จะผลัดกันเด่นในช่วงดึกถึงตีสี่ เล็งฟ้ากว้างๆ ได้ทุกทิศ ไม่จำเป็นต้องหันทางเดียวเสมอไป
- หนีแสงเมือง ยิ่งฟ้ามืดยิ่งเห็น “ลูกไฟ” ชัด เลี่ยงจันทร์เต็มดวง ถ้าเลือกคืนจันทร์เสี้ยวจะเห็นทางช้างเผือกแถมไปด้วย
- อุปกรณ์แนะนำ ตาเปล่าดูดีที่สุดเพราะดาวตกเคลื่อนเร็ว แต่ถ้าจะถ่ายภาพ ใช้กล้อง/มือถือโหมดถ่ายดาวตั้งเวลาชัตเตอร์ 10–20 วินาที ขาตั้งกล้อง+เลนส์มุมกว้าง ISO 1600–3200 เป็นจุดเริ่มที่ดี
- ความปลอดภัยไร้กังวล ดาวตกส่วนใหญ่เผาไหม้สูงมากในบรรยากาศ โอกาสตกถึงพื้นมีน้อยมาก เหตุที่ได้ยินเสียง “ตู้ม” มาจากการแตกตัวในอากาศระดับสูง ไม่ใช่ระเบิดใกล้พื้นดิน
- แบ่งปันหลักฐานอย่างมีข้อมูล หากได้ภาพ/คลิป ให้ระบุเวลา–ทิศทาง–สถานที่ เพื่อให้หน่วยงานวิชาการนำไปวิเคราะห์ต่อ ช่วยกันทำ citizen science แบบเท่ๆ กันทั้งประเทศ
คำถามที่พบบ่อยแบบรวบรัด
Q: ทำไมไฟถึงสว่างสีเหลืองส้มและมีหางยาว
A: เป็นผลจากความร้อนและการแตกตัวของโมเลกุลอากาศ–แร่ธาตุของวัตถุขณะเสียดสีกับบรรยากาศ ความเร็วสูงทำให้เกิดพลาสม่าและไอออไนซ์ สว่างวาบและลากแสงเป็นทาง
Q: แตกต่างจาก “อุกกาบาตตกพื้น” ยังไง
A: ดาวตก/ลูกไฟ คือเฟสที่วัตถุเผาไหม้ในอากาศ ส่วน อุกกาบาต คือชิ้นส่วนที่ “รอดทะลุบรรยากาศ” และตกถึงพื้น ซึ่งในเหตุการณ์เมื่อคืน ยังไม่มีหลักฐานยืนยันเศษตกถึงพื้น
Q: เกี่ยวข้องกับ “ดาวหางเลมมอน C/2025 A6” ไหม
A: ไม่เกี่ยวข้อง ดาวหางอยู่ห่างโลกกว่า 90 ล้านกม. เหตุการณ์เมื่อคืนตรงกับพฤติกรรมของฝนดาวตกเทาริดที่ขึ้นชื่อเรื่องลูกไฟมากกว่าอย่างชัดเจน

สรุปโดยบ้านกีฬา
เหตุการณ์ “ลูกไฟเทาริด” คืนวันที่ 26 ตุลาคม 2568 คือโชว์ใหญ่บนฟ้าประเทศไทยที่ทั้งสวยและทรงพลังทางวิทยาศาสตร์ ได้ทั้งความตื่นเต้นและความรู้ในคราวเดียว ที่สำคัญ—มันเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ “ปลอดภัย” สำหรับผู้สังเกตการณ์บนพื้นดิน และยังเป็นสัญญาณชวนให้เราจับตา ฝนดาวตกเทาริด ช่วงปลายตุลาคมถึงต้นพฤศจิกายนนี้แบบห้ามกระพริบตา ใครมีแพลนเดินทางนอกเมือง คืนฟ้าใส ลองยกหัวขึ้นฟ้าแล้วปล่อยให้หัวใจเต้นตามทางแสงของจักรวาลไปพร้อมกันนะคะ
บ้านกีฬาอยากชวนทุกคนติดตาติดใจข่าวฟ้าดินไปพร้อมกัน เพราะท้องฟ้าไทยยังมีเรื่องให้ลุ้นอีกเยอะ ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา ได้เลย เราจะคัดทุกประเด็นสำคัญมาเล่าแบบเข้มข้น เข้าใจง่าย และได้อรรถรสที่สุด

