บาร์ซ่ากำลังเจอปัญหาใหญ่เรื่องการเงิน
แม้ มาร์คัส แรชฟอร์ด จะโชว์ฟอร์มได้ร้อนแรงสุด ๆ ใต้การคุมทีมของ ฮันซี่ ฟลิค แต่ความฝันที่จะได้ย้ายมาร่วมทัพ บาร์เซโลน่า แบบถาวรกลับเริ่มสั่นคลอน เมื่อรายงานการเงินล่าสุดของสโมสรยักษ์ใหญ่แห่ง ลา ลีกา เผยว่าพวกเขายังมีภาระหนี้ค่าตัวนักเตะค้างจ่ายมากกว่า 6,200 ล้านบาท ซึ่งอาจส่งผลโดยตรงต่อดีลซื้อขาดจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
หนี้สะสมพุ่งเกิน 6,200 ล้าน กระทบดีลใหญ่
จากรายงานทางการเงินที่เปิดเผยเมื่อไม่นานนี้ บาร์เซโลน่ายังมีภาระหนี้ค่าตัวนักเตะรวมสูงถึง 159 ล้านยูโร (ประมาณ 6,210 ล้านบาท) โดยในจำนวนนี้ราว 140 ล้านยูโร (ประมาณ 5,460 ล้านบาท) ต้องชำระภายในสิ้นฤดูกาลนี้ เพื่อรักษาสภาพคล่องของสโมสรและป้องกันไม่ให้ถูกสั่งห้ามซื้อนักเตะเพิ่ม
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า หนี้ก้อนใหญ่ดังกล่าวเกิดจากการเดินหน้าเสริมทัพแบบจัดหนักในตลาดซัมเมอร์ปี 2023 โดยเฉพาะการดึงตัวสตาร์ระดับโลกหลายรายเข้ามา ซึ่งแม้จะเพิ่มศักยภาพทีมได้อย่างมาก แต่กลับกลายเป็นภาระทางการเงินที่เริ่มกัดกร่อนความมั่นคงของสโมสรอย่างชัดเจน
รายละเอียดหนี้ค่าตัวนักเตะที่ยังค้างจ่าย
เพื่อความชัดเจน เดลี่ เมล ได้รายงานรายละเอียดของภาระหนี้ค่าตัวนักเตะที่ บาร์ซ่า ยังค้างจ่ายให้ต้นสังกัดเดิมของนักเตะที่ย้ายมาในซัมเมอร์ปี 2023 ดังนี้
- บาเยิร์น มิวนิค: 10 ล้านยูโร (ราว 390 ล้านบาท) จากดีลของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
- ลีดส์ ยูไนเต็ด: 42 ล้านยูโร (ราว 1,640 ล้านบาท) จากดีลของ ราฟินญ่า
- เซบีย่า: 25 ล้านยูโร (ราว 980 ล้านบาท) จากดีลของ ฌูลส์ กูนเด้
เมื่อรวมทั้งหมด นี่คือหนี้ที่บาร์เซโลน่าจำเป็นต้องเคลียร์โดยเร็วเพื่อให้การบริหารทางการเงินของสโมสรไม่ล่มเป็นโดมิโน่
ผลกระทบโดยตรงต่ออนาคตแรชฟอร์ด
สถานการณ์ทางการเงินที่ตึงมือของบาร์ซ่าอาจส่งผลโดยตรงต่อการใช้ออปชั่นซื้อขาด แรชฟอร์ด ที่ปัจจุบันย้ายมาด้วยสัญญายืมตัวจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และสามารถแจ้งเกิดได้อย่างงดงามกับทีมของฟลิค โดยทำไปแล้ว 5 ประตู 6 แอสซิสต์รวมทุกรายการ กลายเป็นหนึ่งในขุมกำลังแนวรุกที่ขาดไม่ได้ในเวลานี้
รายงานจาก เดอะ ซัน ระบุว่า บาร์เซโลน่า ประทับใจในผลงานและทัศนคติของแรชฟอร์ดอย่างมาก และพร้อมจะใช้ออปชั่นซื้อขาดที่มีมูลค่า 25 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,160 ล้านบาท) บวกโบนัสอีก 5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 230 ล้านบาท) หากการเงินของสโมสรเอื้ออำนวย แต่ในความเป็นจริงตอนนี้ บาร์ซ่ายังไม่มีหลักประกันว่าจะสามารถปิดดีลนี้ได้
ความลังเลของบาร์ซ่าก่อนดีลยืมตัว
แหล่งข่าวภายในเปิดเผยว่า ก่อนการยืมตัว บาร์ซ่ามีความลังเลไม่น้อยกับดีลของแรชฟอร์ด เพราะมองว่าอาจเป็น “ดีลที่ดีเกินจริง” แต่หลังจากได้เห็นผลงานและความมุ่งมั่นของดาวยิงทีมชาติอังกฤษ พวกเขาก็เปลี่ยนความคิดทันที มั่นใจว่านี่คือการลงทุนที่คุ้มค่าระยะยาว และอาจช่วยยกระดับเกมรุกของทีมให้เฉียบคมยิ่งขึ้น
สนามคัมป์ นู และปัญหารายได้ที่ถดถอย
อีกหนึ่งปัจจัยที่ซ้ำเติมวิกฤตทางการเงินของบาร์เซโลน่าคือ ความล่าช้าในการปรับปรุงสนาม คัมป์ นู ที่กินเวลาหลายปี ส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้ของสโมสร ทั้งจากยอดขายตั๋ว, สปอนเซอร์ และรายได้ในวันแข่งขัน ซึ่งถือเป็นแหล่งเงินหลักของทีมตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ทำให้บาร์ซ่าต้องบริหารงบประมาณอย่างรัดกุม และอาจต้องชะลอการลงทุนด้านนักเตะเพิ่มเติม
บาร์ซ่าต้องเลือกระหว่างความฝันกับความจริง
ดีลของแรชฟอร์ดกำลังกลายเป็นเครื่องชั่งน้ำหนักระหว่างความทะเยอทะยานของทีมกับความเป็นจริงทางการเงิน บาร์เซโลน่าต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนว่าจะเดินหน้าซื้อขาดเพื่อยกระดับทีม หรือจะยอมถอยเพื่อรักษาสมดุลทางบัญชีที่เปราะบางของสโมสรเอาไว้
หากสถานะทางการเงินไม่ดีขึ้นในช่วงปลายฤดูกาล ดีลนี้อาจต้องถูกพับเก็บไว้ชั่วคราว แม้แฟนบอลจำนวนมากจะอยากเห็นแรชฟอร์ดอยู่ต่อก็ตาม
บาร์ซ่ากับภารกิจฟื้นตัวระยะยาว
ในเชิงโครงสร้าง บาร์เซโลน่ากำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านทั้งทางด้านการเงินและกีฬา สโมสรจำเป็นต้องบริหารทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ใช่เพียงเพื่อความสำเร็จในสนาม แต่เพื่อความอยู่รอดในระยะยาว ขณะที่ตลาดนักเตะซัมเมอร์หน้าจะเป็นบททดสอบสำคัญ ว่าพวกเขาจะสามารถปรับกลยุทธ์ได้แค่ไหน
ความชัดเจนของดีลแรชฟอร์ดจึงไม่ใช่เพียงเรื่องของการซื้อนักเตะคนหนึ่งเท่านั้น แต่มันอาจสะท้อนอนาคตของทีมทั้งระบบ
ฤดูกาลนี้คือจุดชี้ชะตา
อนาคตของแรชฟอร์ดกับบาร์ซ่ากำลังถูกจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะนอกจากฝีเท้าระดับท็อปของเขาจะเข้ากับระบบการเล่นของฟลิคอย่างลงตัวแล้ว เขายังเป็นขวัญใจแฟนบอลในระยะเวลาอันสั้น การตัดสินใจครั้งนี้อาจส่งผลระยะยาวต่อความทะเยอทะยานของสโมสรในเวทียุโรป
แฟนบอลคงต้องลุ้นกันต่อว่าบาร์เซโลน่าจะสามารถจัดการภาระหนี้สินและปิดดีลสุดสำคัญนี้ได้หรือไม่ ติดตามความเคลื่อนไหวแบบเข้มข้นได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา

