ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก ระหว่าง ลิเวอร์พูล vs แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วันนี้ 19/10/68 ดูบอลย้อนหลัง คลิปไฮไลท์ ดูบอล พรีเมียร์ลีก
ปีศาจแดง บุกดับเดือด! แมนฯ ยูไนเต็ด บุกเชือด ลิเวอร์พูล คาถิ่นแอนฟิลด์ 2-1 บ้านกีฬา

ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดใหญ่ประจำค่ำคืนวันที่ 19 ตุลาคม 2025 ที่สนาม แอนฟิลด์ เป็นเกมแดงเดือดระหว่าง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดบ้านรับการมาเยือนของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกมนี้เต็มไปด้วยความเข้มข้นตั้งแต่นาทีแรกจนวินาทีสุดท้าย ก่อนที่สุดท้ายจะเป็นทีมเยือนที่เฉียบคมกว่า บุกเอาชนะไปได้ 2-1 เก็บสามแต้มสุดล้ำค่าได้สำเร็จ! “บ้านกีฬา” พร้อมรายงาน ผลบอลสด แบบเข้มข้นทุกจังหวะจากแมตช์หยุดโลกคู่นี้!
รายงานการแข่งขัน: ลิเวอร์พูล 1-2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
- นาทีที่ 1: เริ่มเกมที่แอนฟิลด์ เสียงเชียร์ดังกระหึ่มตั้งแต่วินาทีแรก ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายเปิดฉากแต่ยังไม่ทันตั้งตัว
- นาทีที่ 2: ⚽️ GOAL! แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดออกนำเร็ว 0-1!! ไบรอัน เอ็มเบอโม่ ซัดด้วยขวาจากในกรอบฝั่งขวา บอลพุ่งเรียดเสียบเสาไกลสุดเฉียบ หลังรับบอลทะลุช่องจาก อาหมัด ดิยัลโล่ แฟนผีเฮสนั่น ขณะที่แนวรับลิเวอร์พูลได้แต่ยืนมอง
- นาทีที่ 5: มาสัน เมาท์ (แมนฯยู) ฟาวล์ใส่ คอเนอร์ แบรดลีย์ กรรมการให้ฟรีคิกแก่เจ้าถิ่นในแดนหลัง
- นาทีที่ 9: ดิโอโก้ ดาโลต์ (แมนฯยู) ไปฟาวล์อีกครั้งกลางสนาม ลิเวอร์พูลได้ตั้งเกมขึ้นใหม่
- นาทีที่ 11: โคดี้ กัคโป (ลิเวอร์พูล) ฟาวล์ใส่ กาเซมิโร่ (แมนฯยู) ก่อนที่กรรมการจะเป่าหยุดเกม
ไม่นานนัก ลิเวอร์พูลได้ฟรีคิกในแดนตัวเอง - นาทีที่ 13: มัตไตส์ เดอ ลิกต์ (แมนฯยู) ทำแฮนด์บอลกลางสนาม ผู้ตัดสินให้ลูกฟรีคิกกับเจ้าบ้าน
- นาทีที่ 14: เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ได้โหม่งเต็มหัวจากลูกฟรีคิก บอลหลุดเสาออกไปทางขวาแบบได้ลุ้น
- นาทีที่ 19: โดมินิค โซบอสซ์ไล ถูก กาเซมิโร่ เข้าหนักกลางสนาม กรรมการให้ฟรีคิกกับลิเวอร์พูล
- นาทีที่ 21: กัคโป ยิงไกลชนเสาอย่างน่าเสียดาย! เจ้าถิ่นเกือบตีเสมอได้เร็ว
- นาทีที่ 24: บรูโน่ แฟร์นันด์ส (แมนฯยู) ยิงชนเสาอีก! เกมเปิดหน้าแลกสุดมัน
- นาทีที่ 26: อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (ลิเวอร์พูล) ยิงไกลด้วยขวา บอลพุ่งแรงแต่ถูก เซนนี ลัมเมนส์ เซฟไว้ได้
- นาทีที่ 27: แมนฯยูสวนกลับสองจังหวะติด เมาท์ ซัดข้ามคาน เอ็มเบอโม่ ยิงอีกครั้งแต่ติดเซฟของ มามาร์ดาชวิลี่
- นาทีที่ 29: อเล็กซานเดอร์ อิซัค ได้ยิงในกรอบ บอลหลุดเสาไปนิดเดียว
- นาทีที่ 33: ซาลาห์ โหม่งเต็มหัวจากการเปิดของ กัคโป แต่ ลัมเมนส์ ปัดออกสุดปลายมือ
- นาทีที่ 35: อิซัค ได้หลุดเดี่ยวอีกครั้ง ยิงเรียดแต่ ลัมเมนส์ ยังเหนียว เซฟได้อีกครั้ง
- นาทีที่ 37: กัคโป ถูกฟาวล์โดย เอ็มเบอโม่ ลิเวอร์พูลได้ฟรีคิกริมเส้น
- นาทีที่ 39: ฟาน ไดจ์ค โหม่งอีกครั้ง แต่ ลัมเมนส์ เซฟไว้กลางประตู เกมรุกหงส์ยังไม่คมพอ
- นาทีที่ 41: แมนฯยูได้เตะมุมสองครั้งติดจากฝั่งซ้าย แต่แนวรับหงส์แดงยังเคลียร์ได้
- นาทีที่ 42: มาเธอุส คุนญ่า (แมนฯยู) ได้ยิงไกลหลุดเสาออกไปอย่างได้เสียว
- ทดเวลาครึ่งแรก 4 นาที นาทีที่ 46: ลิเวอร์พูลได้เตะมุมท้ายครึ่ง แต่ยังทำอะไรไม่ได้
จบครึ่งแรก: ลิเวอร์พูลตามหลัง 0-1
ครึ่งหลัง
- นาทีที่ 46: เริ่มครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลเดินหน้าบุกทันทีเพื่อหาประตูตีเสมอ
- นาทีที่ 50: กัคโป ยิงด้วยขวาชนเสาอีกครั้ง! น่าเสียดายที่บอลไม่ยอมเข้า
เกมต้องหยุดชั่วคราวหลังเจ้าตัวเจ็บเล็กน้อย - นาทีที่ 52: ⚠️ ใบเหลือง! อาหมัด ดิยัลโล่ (แมนฯยู) เข้าฟาวล์หนักใส่ ซาลาห์ กลางสนาม
กรรมการไม่รอช้า ชูใบเหลืองเตือนทันที - นาทีที่ 54: ซาลาห์ มีโอกาสยิงอีกครั้งจากในกรอบเขตโทษ แต่บอลข้ามคานออกไป
- นาทีที่ 57: ⚠️ ใบเหลืองอีกหนึ่ง! กาเซมิโร่ (แมนฯยู) เข้าหนักใส่คู่แข่งจนกรรมการต้องชูใบเหลือง
ก่อนโดนเปลี่ยนตัวออกเพื่อไม่ให้เสี่ยงใบที่สอง - นาทีที่ 58-62: ทั้งสองทีมเปลี่ยนตัวหลายตำแหน่ง ลิเวอร์พูลส่ง เคอร์ติส โจนส์, ฮูโก้ เอคิติเก้, ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ ลงสนาม แมนฯยูส่ง มานูเอล อูการ์เต้, แพทริก ดอร์กู, และ เบนจามิน เชสโก้ ลงเติมเกม
- นาทีที่ 64: เอคิติเก้ (ลิเวอร์พูล) ยิงไกลข้ามคานออกไป
ถัดมา ซาลาห์ ยิงอีกครั้งเฉียดเสาอย่างน่าหวาดเสียว - นาทีที่ 66: แมนฯยูได้ลูกเตะมุม และ เชสโก้ โหม่งหลุดกรอบไปทางซ้าย
- นาทีที่ 69: เอคิติเก้ ได้ยิงในกรอบอีกครั้ง แต่บอลเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียว
- นาทีที่ 72: 🔁 ลิเวอร์พูลเปลี่ยนตัว: ส่ง เฟเดริโก้ เคียซ่า แทน อิซัค
- นาทีที่ 75: ฟาวล์! แม็กไกวร์ (แมนฯยู) ทำฟาวล์ใส่ เคียซ่า ทางขวา ลิเวอร์พูลได้ฟรีคิก
- นาทีที่ 76: เคอร์ติส โจนส์ ยิงด้วยซ้ายในกรอบ บอลพุ่งเรียดแต่ถูก ลัมเมนส์ เซฟไว้ได้อีกครั้ง
- นาทีที่ 77: ลิเวอร์พูลบุกหนัก ได้ลูกเตะมุมสองครั้งติด ก่อนที่ กัคโป จะโหม่งติดบล็อก
- นาทีที่ 78: ⚽️ GOAL! ลิเวอร์พูลตีเสมอ 1-1!! โคดี้ กัคโป ซัดจ่อ ๆ เสียบมุมซ้ายล่าง หลังรับบอลจาก เฟเดริโก้ เคียซ่า สนามแอนฟิลด์ระเบิดเฮดังลั่นทันที!
- นาทีที่ 80: ดอร์กู (แมนฯยู) ฟาวล์กลางสนาม โซบอสซ์ไลได้ฟรีคิกช่วยทีม
- นาทีที่ 83: แมนฯยูได้เตะมุมทางขวา คุนญ่า ยิงติดบล็อกก่อนที่บอลจะเด้งออกหลัง
- นาทีที่ 84: ⚽️ GOAL! แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแซงนำ 2-1!! แฮร์รี่ แม็กไกวร์ โหม่งเต็มหัวเสียบมุมซ้ายล่าง หลังได้ลูกเปิดแม่นจาก บรูโน่ แฟร์นันด์ส ทีมเยือนขึ้นนำอีกครั้งในช่วงท้ายเกม!
- นาทีที่ 85: 🔁 มีการเปลี่ยนตัวพร้อมกันหลายตำแหน่ง ลิเวอร์พูลถอด ซาลาห์ ส่ง เจเรมี่ ฟริมปง ลงสนาม แมนฯยูเปลี่ยน ลุค ชอว์ ออก ส่ง เลนี่ โยโร่ และส่ง โคบี เมนู แทน บรูโน่ แฟร์นันด์ส
- นาทีที่ 87: กัคโป ได้โหม่งจ่อ ๆ หลุดกรอบไปทางซ้ายอย่างไม่น่าเชื่อ
- นาทีที่ 90: ลิเวอร์พูลได้เตะมุมต่อเนื่อง
กรรมการชูป้ายทดเวลา 8 นาที - นาทีที่ 92: โคนาเต้ ได้โหม่งจากลูกเตะมุม แต่บอลติดบล็อกออกหลังอีกครั้ง
- นาทีที่ 97: คุนญ่า (แมนฯยู) ได้ฟรีคิกกลางสนามจากการโดนฟาวล์โดย เอคิติเก้
- นาทีที่ 98: เคอร์ติส โจนส์ ได้ฟรีคิกแดนตัวเองหลังโดนทำฟาวล์
- นาทีที่ 99: เสียงนกหวีดดังจบเกม! แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดบุกเฉือนลิเวอร์พูล 2-1 เกมนี้เปิดแลกดุเดือดตั้งแต่ต้นจนจบ แต่สุดท้ายหัวโขกของ แม็กไกวร์ นาทีที่ 84 พาทีมเยือนเก็บสามแต้มสุดสำคัญ
เกมนี้แสดงให้เห็นถึงความเหนียวแน่นและความเฉียบขาดของลูกทีม รูเบน อาโมริม ที่คุมแท็กติกได้ยอดเยี่ยม โดยมี เอ็มเบวโม และ แม็กไกวร์ เป็นฮีโร่ยิงคนละประตู ส่วนฝั่ง อาร์เน่ สลอต ของลิเวอร์พูลแม้จะครองบอลมากและสร้างโอกาสได้เยอะ แต่ขาดความคมในจังหวะสุดท้าย หลังจบเกม ลิเวอร์พูลมี 15 คะแนน จาก 8 นัด รั้งอันดับ 3 ของตาราง ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บเพิ่มเป็น 13 คะแนน ขยับขึ้นสู่อันดับ 9 ของศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2025/26
คอบอลไม่ควรพลาด! บ้านกีฬาพร้อมอัปเดต ผลบอลสด, บ้านผลบอล, ตารางคะแนน และบทวิเคราะห์บอลทุกคู่จากลีกดังทั่วโลก ติดตามทุกความมันส์ ทุกแมตช์สำคัญ บ้านกีฬา ที่เดียวครบจบเรื่องบอล! ⚽🔥

