โยกย้ายข้าราชการกระทรวงมหาดไทย “บิ๊กล็อต” 45 ตำแหน่ง เขย่าอำนาจการเมือง–ราชการครั้งใหญ่

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

การแต่งตั้ง โยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย จำนวนมากถึง 45 ราย ในคราวเดียว กลายเป็นประเด็นร้อนที่ไม่เพียงสะเทือนระบบราชการไทย แต่ยังสะเทือนเวทีการเมืองระดับประเทศด้วย เพราะกระทรวงมหาดไทยเป็นหนึ่งในกระทรวงที่สำคัญที่สุดของประเทศ มีอำนาจควบคุมการบริหารราชการส่วนภูมิภาคและท้องถิ่นทั่วไทยอย่างเบ็ดเสร็จ การปรับย้าย “บิ๊กล็อต” ครั้งนี้จึงถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดทั้งในและนอกวงการเมือง

🏛️ มติ ครม. ย้าย “บิ๊กล็อต” มท. 45 ราย

เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2568 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของ กระทรวงมหาดไทย (มท.) จำนวน 45 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนระดับ “ผู้ว่าราชการจังหวัด – รองปลัด – อธิบดี” ที่มากที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายปี โดยนาย อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการ “เอาคืนทางการเมือง” แต่เป็นการคืนความเป็นธรรมให้กับผู้ที่เคยถูกกลั่นแกล้ง และจัดคนให้เหมาะกับงาน

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า นายกฯ ได้ให้แนวทางกับปลัด มท. ว่าการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ต้อง “ยึดหลักความเป็นธรรม คุณธรรม และความเหมาะสมกับตำแหน่งงาน” โดยผู้ที่ถูกโยกย้ายบางส่วนเคยได้รับผลกระทบจากการแต่งตั้งก่อนหน้า 3 ครั้งภายใน 2 เดือน

📜 รายชื่อของผู้ที่ถูกโยกย้าย

  • 1.นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผวจ.นครราชสีมา เป็นรองปลัด มท.
  • 2.นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผวจ.สงขลาเป็นรองปลัด มท.
  • 3.นายภาสกร บุญญลักษม์ ผวจ.ระยอง เป็นรองปลัด มท.
  • 4.นายชรินทร์ ทองสุข ผวจ.ขอนแก่น เป็น ผู้ตรวจราชการ มท.
  • 5.นายชำนาญ ชื่นตา ผวจ.อุบลราชธานีเป็ฯผู้ตรวจราชการ มท.
  • 6.นายทศพล เผื่อนอุดม ผวจ.เชียงใหม่เป็นผู้ตรวจราชการ มท.
  • 7.นายศักระ กปิลกาญจน์ ผวจ.สตูล เป็นผู้ตรวจราชการ มท.
  • 8.นายสมภพ สมิตะสิริ ผวจ.หนองคาย เป็นผู้ตรวจราชการ มท.
  • 9.นายสุพจน์ ภูติเกียรติขจร ผวจ.ระนอง เป็นผู้ตรวจราชการ มท.
  • 10.นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผวจ.กาญจนบุรี เป็นผู้ตรวจราชการ มท.
  • 11.นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ตรวจราชการมท.เป็นอธิบดีกรมการปกครอง
  • 12.นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.สมุทรปราการ เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน
  • 13.นายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดมท.เป็นอธิบดีกรมที่ดิน
  • 14. นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผวจ.อุทัยธานี เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
  • 15.นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ผวจ.สุราษฎร์ธานี เป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
  • 16.นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ตรวจราชการมท.เป็นผวจ.กระบี่
  • 17.นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง ผวจ.สกลนคร เป็นผวจ.กาฬสินธุ์
  • 18. นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี อธิบดีกรมที่ดิน เป็นผวจ.ขอนแก่น
  • 19.นายชูชีพ พงษ์ไชย รองปลัดมท. เป็นผวจ.เชียงราย
  • 20.นายรัฐพล นราดิศร ผวจ.เชียงรายเป็นผวจ.เชียงใหม่
  • 21.นายพิริยะ ฉันทดิลก ผวจ.สุพรรณบุรี เป็นผวจ.ตราด
  • 22.ว่าที่พ.ต.อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ตรวจราชการมท.เป็นผวจ.นครพนม
  • 23.นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผวจ.ศรีสะเกษ เป็นผวจ.นครราชสีมา
  • 24.น.ส.ชุติพร เสชัง ผวจ.แม่ฮ่องสอนเป็นผวจ.นครสวรรค์
  • 25.นายเชษฐา โมสิกรัตน์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นผวจ.นนทบุรี
  • 26.นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ตรวจราชการมท.เป็นผวจ. ปราจีนบุรี
  • 27.นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล ผู้ตรวจราชการมท.เป็นผวจ.พระนครศรีอยุธยา
  • 28.นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผวจ.นนทบุรี เป็นผวจ.พิษณุโลก
  • 29.ร.ต.ท. ภพชนก ชลานุเคราะห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นผวจ.เพชรบุรี
  • 30.นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง เป็นผวจ.ภูเก็ต
  • 31.นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผวจ.ลำปาง เป็นผวจ.แม่ฮ่องสอน
  • 32.นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผวจ.เพชรบุรี เป็นผวจ.ระยอง
  • 33.นายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ ผวจ.ลำพูนเป็นผวจ.ลำปาง
  • 34.นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต ผวจ.อำนาจเจริญเป็นผวจ.ศรีสะเกษ
  • 35นางรณิดา เหลืองฐิติสกุล ผู้ตรวจราชการมท.เป็นผวจ.สกลนคร
  • 36.นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผวจ.กระบี่ เป็นผวจ.สงขลา
  • 37.นายศุภมิตร ชิณศรี ผวจ.นครสวรรค์เป็นผวจ.สมุทรปราการ
  • 38.นายณัฐพงษ์ สงวนจิตร ผวจ.ตราด เป็นผวจ.สุพรรณบุรี
  • 39.นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ รองปลัดมท.เป็นผวจ.สุราษฎร์ธานี
  • 40.นายศรัณย์ศักด์ ศรีเครือเนตร ผวจ.ภูเก็ต เป็นผวจ.หนองคาย
  • 41.นายสุรศักดิ์ อักษรกุล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผวจ.หนองบัวลำภู
  • 42.นายนที มนตริวัต ผวจ.ชัยนาท เป็นผวจ.อ่างทอง
  • 43.ให้นายสันติ รังษิรุจิ ผวจ.ฉะเชิงเทราเป็นผวจ.อุตรดิตถ์
  • 44.นายสมบัติ ไตรศักดิ์ ผวจ.สิงห์บุรีเป็นผวจ.อุทัยธานี
  • 45.นายณรงค์ เทพเสนา ผู้ตรวจราชการมท.เป็นผวจ.อุบลราชธานี

🧭 ทำไมการโยกย้ายใน มท. ถึงสำคัญมาก

กระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยงานหลักที่กำกับดูแลการบริหารราชการส่วนภูมิภาคและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ มีอำนาจและหน้าที่เกี่ยวข้องกับประชาชนโดยตรง เช่น การจัดการภาวะฉุกเฉิน ภัยพิบัติ การกระจายงบประมาณ การกำกับดูแลเทศบาล อบต. และการเลือกตั้งระดับพื้นที่

การโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดและข้าราชการระดับสูงจึง ส่งผลโดยตรงต่อการบริหารพื้นที่ทั่วประเทศ ทั้งในด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และการเมืองระดับท้องถิ่น รวมถึงยังสะท้อน “ดุลอำนาจ” ของฝ่ายการเมืองที่กำกับดูแลด้วย

⚔️ วิเคราะห์การเมืองเบื้องหลังการโยกย้ายครั้งนี้

ผศ.เชษฐา ทรัพย์เย็น ผู้ช่วยอธิการบดี ม.นวมินทราธิราช วิเคราะห์ว่า การโยกย้ายครั้งนี้เป็น “กลยุทธ์สำคัญ” ในเกมการเมืองระดับชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนการเลือกตั้งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เนื่องจากผู้ว่าราชการจังหวัดถือเป็นกลไกสำคัญในการควบคุมพื้นที่ และสามารถกำหนดทิศทางเชิงยุทธศาสตร์ในจังหวัดได้อย่างมาก

“การย้ายข้าราชการระดับสูงของมหาดไทย 45 ตำแหน่งในคราวเดียว เป็นมากกว่าการบริหารงานปกติ เพราะนี่คือการจัดขุมกำลังเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างพรรคใหญ่ในรัฐบาล” — ผศ.เชษฐา กล่าว

🏛️ กลไกสำคัญของ “ปลัดมหาดไทย” และอธิบดีกรม

แม้รัฐมนตรีว่าการมหาดไทยจะเป็นผู้ลงนามในหลักการ แต่หัวใจสำคัญของกระบวนการโยกย้ายอยู่ที่ “ปลัดมหาดไทย” ซึ่งเป็นผู้เสนอรายชื่อข้าราชการที่เหมาะสมในการปรับตำแหน่ง ก่อนนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ดังนั้น ผู้ที่ได้รับตำแหน่งสำคัญในกรมต่าง ๆ หรือผู้ว่าราชการจังหวัดจึงมักถูกคัดเลือกโดยพิจารณา “ศักยภาพ ความสามารถ และความไว้วางใจ”

กรมการปกครอง และ กรมที่ดิน ถือเป็นสองหน่วยงานยุทธศาสตร์ที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ เพราะเกี่ยวข้องกับอำนาจในพื้นที่และการจัดการทรัพยากรระดับจังหวัด

🧑‍💼 โยกย้ายข้าราชการ = เครื่องมือสร้างสมดุลอำนาจ

ประเทศไทยใช้ระบบการโยกย้ายข้าราชการเพื่อสร้างความสมดุลระหว่างฝ่ายบริหารและราชการมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในกระทรวงที่มีอำนาจมาก การโยกย้ายจึงไม่ใช่แค่การจัดการบุคลากร แต่เป็นการ “วางหมาก” เพื่อสร้างโครงสร้างอำนาจที่ฝ่ายการเมืองสามารถกำกับได้

สำหรับประชาชน สิ่งสำคัญที่สุดคือ การได้รับบริการจากภาครัฐที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเท่าเทียม ไม่ว่าผู้ว่าราชการจังหวัดหรืออธิบดีกรมจะมาจากสายไหนก็ตาม

🧭 ความเชื่อมโยงกับการเลือกตั้ง

ในอดีต การปรับโยกย้ายข้าราชการระดับสูงในมหาดไทยมักเกิดขึ้น ก่อนการเลือกตั้งใหญ่ เสมอ เนื่องจากจังหวัดเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคการเมือง การวางตำแหน่งบุคคลที่ “ไว้ใจได้” ในพื้นที่จึงเป็นยุทธศาสตร์ที่ใช้มานาน

การโยกย้ายครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่กระแสการเมืองเริ่มร้อนแรงอีกครั้ง โดยเฉพาะระหว่าง พรรคเพื่อไทย และ พรรคภูมิใจไทย ที่มีฐานเสียงแข็งแกร่งในหลายจังหวัด ทำให้การโยกย้ายครั้งนี้ถูกมองว่าเป็น “การล้างบางสีแดง” หรือ “สับขั้วอำนาจในพื้นที่”

📌 สิ่งที่ประชาชนควรรู้

  • การโยกย้ายข้าราชการระดับสูงไม่ใช่เรื่องการเมืองเพียงอย่างเดียว แต่มีผลต่อ การบริหารจังหวัด
  • ผู้ว่าราชการจังหวัดมีบทบาทสำคัญในการรับมือกับ ภัยพิบัติ, ปัญหาเศรษฐกิจ, ความสงบเรียบร้อย, และนโยบายรัฐ
  • แม้การโยกย้ายจะเกิดจากเกมการเมือง แต่ประชาชนยังสามารถติดตาม ตรวจสอบ และเรียกร้องความโปร่งใสได้

🧠 ความสำคัญของความโปร่งใส

การแต่งตั้งโยกย้ายที่ยึดหลัก “คุณธรรม – ความเหมาะสม – ความสามารถ” จะช่วยให้ระบบราชการไทยก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ลดแรงกระเพื่อมทางการเมืองในระยะยาว และทำให้จังหวัดต่าง ๆ สามารถบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การเปิดเผยรายชื่อผู้ถูกโยกย้ายอย่างโปร่งใส ถือเป็นหนึ่งในจุดแข็งที่ทำให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ว่าผู้ที่ได้รับตำแหน่งสำคัญเป็น “มืออาชีพ” จริงหรือไม่

🏁 บทสรุป

การโยกย้าย “บิ๊กล็อต” ข้าราชการกระทรวงมหาดไทย 45 ตำแหน่งในครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงเรื่องภายในของกระทรวง แต่สะท้อนทั้ง “โครงสร้างอำนาจ” และ “ทิศทางการเมืองไทย” ในระยะต่อไป ประชาชนควรจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะทุกตำแหน่งเหล่านี้มีผลต่อชีวิตคนในจังหวัดโดยตรง ทั้งด้านเศรษฐกิจ การบริการ และการพัฒนาท้องถิ่น

📍 ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา เพื่อไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวของการเมืองและระบบราชการไทย

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา