สถานการณ์ของ มาร์คัส แรชฟอร์ด กำลังพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ หลังจากที่ถูกส่งไปให้ แอสตัน วิลล่า ยืมใช้งานในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล ล่าสุดเจ้าตัวกลับมามีชื่อติดทีมชาติ อังกฤษ อีกครั้ง ซึ่งส่งผลให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัดสินใจปรับค่าตัวของกองหน้ารายนี้ให้สูงขึ้นทันที
แรชฟอร์ด เคยถูกมองว่าเป็นแข้งส่วนเกินของ แมนยู หลังจากฟอร์มตกต่ำจนหลุดจากแผนการทำทีมของ รูเบน อโมริม กุนซือชาวโปรตุเกส ทำให้สโมสรตัดสินใจปล่อยให้ วิลล่า ยืมตัวไปใช้งาน โดยมีเป้าหมายหลักคือการขายขาดในช่วงซัมเมอร์
แม้ว่าการย้ายมาเล่นภายใต้การคุมทีมของ อูไน เอเมรี่ จะยังไม่ทำให้ แรชฟอร์ด กลับมาเป็นเครื่องจักรถล่มประตู แต่ฟอร์มโดยรวมของเขาถือว่าดีขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับช่วงเวลาที่อยู่กับ ปีศาจแดง โดยเฉพาะการสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนร่วมทีม ซึ่งทำให้เจ้าตัวมีสถิติแอสซิสต์กับ สิงห์ผงาด และเริ่มกลับมามีบทบาทมากขึ้น
ฟอร์มที่ดีขึ้นนี้เองทำให้ โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือทีมชาติ อังกฤษ ตัดสินใจใส่ชื่อ แรชฟอร์ด ในลิสต์ขุนพลชุดแรกของเขา หลังจากที่ดาวยิงวัย 26 ปี เคยหลุดจากทีมชาติชุดสู้ศึก ยูโร 2024 ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับอนาคตของนักเตะรายนี้
การกลับมาติดทีมชาติส่งผลโดยตรงต่อมูลค่าของ แรชฟอร์ด และตามรายงานของ มิค บราวน์ นักข่าวจาก ฟุตบอล อินไซเดอร์ ระบุว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่รอช้าที่จะปรับค่าตัวของเขาให้สูงขึ้นทันที
“แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องการค่าตัวของ แรชฟอร์ด ให้แพงขึ้น พวกเขามองว่าการถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษอีกครั้งช่วยเพิ่มมูลค่าของเขาในตลาดนักเตะ” บราวน์ กล่าว
“ในตอนแรกเหมือนว่าพวกเขาพร้อมปล่อยในราคาที่ไม่แพงนัก แต่ด้วยผลงานที่ดีขึ้น และความสนใจจากทั้ง แอสตัน วิลล่า และสโมสรจากต่างแดน ทำให้มูลค่าของเขาพุ่งสูงขึ้น ซึ่ง ยูไนเต็ด กำลังใช้โอกาสนี้เป็นจุดขาย”
สถานการณ์ของ แรชฟอร์ด กลายเป็นที่จับตามองอย่างมากในตลาดซื้อขายช่วงซัมเมอร์นี้ เพราะนอกจาก วิลล่า ที่ต้องการเซ็นสัญญาถาวรแล้ว ยังมีหลายทีมจากยุโรปให้ความสนใจ แน่นอนว่าหากเขาสามารถโชว์ฟอร์มได้ดีต่อเนื่อง และยืนระยะในทีมชาติ อังกฤษ ได้ แมนยู ก็มีโอกาสทำกำไรจากการขายนักเตะรายนี้มากกว่าที่คาดไว้ตอนแรก
ติดตามทุกข่าวสารฟุตบอลอังกฤษและ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา
