
ชาบี อลอนโซ่ เฮดโค้ชจอมแท็กติกของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ส่งสารชัดเจนว่า ทีมของเขาจะไม่ยอมปล่อยให้ บาเยิร์น มิวนิค ผงาดคว้าแชมป์ง่าย ๆ พร้อมลั่นขอเดินหน้ากดดันต่อเนื่อง หลังจากคว้าชัยสำคัญเหนือ สตุ๊ตการ์ท 4-3 ในเกมสุดมันส์ที่เปลี่ยนสถานการณ์ลุ้นแชมป์ บุนเดสลีกา ให้เข้มข้นขึ้น
หลังจากผ่านช่วงเวลายากลำบาก เลเวอร์คูเซ่น ที่ก่อนหน้านี้พ่ายแพ้มา 3 นัดรวด ก็กลับมาเรียกศรัทธาได้สำเร็จ ด้วยการบุกไปเชือด สตุ๊ตการ์ท แบบสุดดราม่า โดยแมตช์นี้ทีมของ อลอนโซ่ ต้องตกเป็นฝ่ายตามหลังถึงสองประตูตั้งแต่ช่วงต้นเกม ก่อนจะโดนทิ้งห่างอีกครั้งเป็น 1-3 แต่สุดท้ายพวกเขาโชว์คาแรกเตอร์อันแข็งแกร่ง ไล่ยิง 3 ลูกติด จนสามารถพลิกกลับมาคว้าชัยได้ในที่สุด
ชัยชนะนัดนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เพราะในวันเดียวกัน บาเยิร์น มิวนิค ทำได้แค่เสมอกับ อูนิโอน เบอร์ลิน 1-1 ทำให้ช่องว่างระหว่างสองทีมลดลงเหลือเพียง 6 คะแนน ขณะที่เหลือโปรแกรมการแข่งขันอีก 8 นัด ทุกแต้มที่ได้จากนี้อาจเป็นตัวแปรสำคัญที่พลิกโฉมหน้าของตำแหน่งแชมป์
อลอนโซ่ เปิดใจหลังจบเกมว่า “พวกเรายังไม่ยอมแพ้ เรายังอยู่ในเส้นทาง และจะเดินหน้ากดดันพวกเขาต่อไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมบอกลูกทีมเสมอว่าเราไม่มีสิทธิ์ปล่อยให้โอกาสหลุดมือ เรารู้ดีว่ามันยังเหลืออีกหลายเกมใน บุนเดสลีกา รวมถึงยังมีภารกิจในศึก เดเอฟเบ โพคาล รอบรองชนะเลิศที่เราต้องโฟกัส”
กุนซือชาวสแปนิชยอมรับว่า แม้สถานการณ์การลุ้นแชมป์จะยังไม่ได้อยู่ในมือของพวกเขาโดยตรง แต่สิ่งสำคัญคือการคว้าชัยชนะให้ได้ทุกนัดที่ลงเล่น “หน้าที่ของเราคือชนะทุกเกม ส่วน บาเยิร์น จะทำผลงานแบบไหน เราจะรอดู แต่เราจะไม่ยอมเสียสมาธิ เป้าหมายของเราคือเดินหน้าต่อไป”
ชัยชนะเหนือ สตุ๊ตการ์ท นอกจากจะทำให้ทีมกลับมามีความหวังในการลุ้นแชมป์อีกครั้ง ยังช่วยเรียกความมั่นใจให้กับนักเตะ หลังจากต้องเจอกับช่วงเวลาที่สุดแสนยากลำบากจากการแพ้ 3 นัดติดต่อกันในทุกรายการ “เราพิสูจน์ให้เห็นว่าเรามีหัวจิตหัวใจที่แข็งแกร่ง พวกเรากลับมาได้จากการเป็นฝ่ายตามหลัง ทุกคนแสดงความมุ่งมั่นเต็มที่ หลังจากที่เราตีตื้นมาเป็น 2-3 เราเริ่มเชื่อแล้วว่าเรายังมีโอกาส และเมื่อตีเสมอได้ เราก็ไม่หยุดแค่นั้น พวกเราต้องการชัยชนะ และเราก็ทำได้”
ชัยชนะครั้งนี้ส่งแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ไปถึง บาเยิร์น มิวนิค ที่ต้องรับรู้แล้วว่า เลเวอร์คูเซ่น ไม่มีทางปล่อยให้พวกเขาลอยลำคว้าแชมป์ง่าย ๆ นับจากนี้ไปทุกนัดจะเป็นบททดสอบที่แท้จริงของทั้งสองทีม และอาจเป็นตัวตัดสินว่าถ้วยแชมป์ บุนเดสลีกา ฤดูกาลนี้จะตกเป็นของใคร
ติดตามทุกข่าวสารวงการฟุตบอล เยอรมัน และ บุนเดสลีกา ได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา