ผลบอลสดพรีเมียร์ลีก 2024 ระหว่าง ทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ vs ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ วันนี้ 24/11/67 ดูบอลย้อนหลัง คลิปไฮไลท์ ดูบอลพรีเมียร์ลีก 2024
ศึกพรีเมียร์ลีก 2024 ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์บุกอัดแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-0 ที่เอติฮัด สเตเดียม
บ้านกีฬา พาคุณไปเจาะลึกการแข่งขันพรีเมียร์ลีก 2024 นัดสำคัญที่สนามเอติฮัด สเตเดียม! การพบกันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมยักษ์ใหญ่เจ้าบ้าน กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทีมเยือนสุดแกร่ง ผลการแข่งขันที่น่าทึ่งจบลงด้วยการที่สเปอร์สบุกถล่มซิตี้ไปถึง 4-0 งานนี้ “เรือใบสีฟ้า” ถูกเล่นงานตั้งแต่ต้นเกมจนกระทั่งจบ แม้จะพยายามบุกหนัก แต่ก็ไม่สามารถฝ่ากำแพงของทีมเยือนที่เหนียวแน่นได้ ผลบอลสด ชัดเจน ท็อตแน่มเหนือกว่าทุกด้าน!
แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา
ครึ่งแรก
นาทีที่ 1: ยีฟส์ บิสซูม่า (สเปอร์ส) ได้รับใบเหลืองจากการฟาวล์
นาทีที่ 3: เออร์ลิง ฮาลันด์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) โหม่งบอลจากระยะเผาขน แต่บอลหลุดกรอบ
นาทีที่ 5: เออร์ลิง ฮาลันด์ ยิงด้วยเท้าซ้าย แต่โดนบล็อก
นาทีที่ 6: แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้เตะมุมจากการสกัดของ ราดู ดรากูซิน (สเปอร์ส)
นาทีที่ 8: ซอน ฮึง-มิน (สเปอร์ส) ถูกทำฟาวล์ในแดนกลาง
นาทีที่ 9: ดีเจน คูลูเซฟสกี้ (สเปอร์ส) ชนะฟรีคิกในแดนหลัง
นาทีที่ 11: เออร์ลิง ฮาลันด์ ยิงมุมแคบ แต่ติดเซฟ
นาทีที่ 13 (GOAL!): เจมส์ แมดดิสัน ยิงด้วยเท้าซ้ายจากระยะเผาขนเข้าไป ทำให้สเปอร์สขึ้นนำ 1-0
นาทีที่ 16: ฟิล โฟเดน (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) ยิงด้วยเท้าซ้าย แต่บอลหลุดกรอบ
นาทีที่ 18: เอแดร์ซอน (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) เซฟลูกยิงระยะไกลของ ซอน ฮึง-มิน
นาทีที่ 20 (GOAL!): เจมส์ แมดดิสัน ยิงไกลจากนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเสียบมุมล่างอย่างสวยงาม สเปอร์สขึ้นนำ 2-0
นาทีที่ 22: เออร์ลิง ฮาลันด์ ยิงลูกโหม่ง แต่บอลลอยข้ามคาน
นาทีที่ 23: โดมินิก โซลันกี้ (สเปอร์ส) ถูกทำฟาวล์ใกล้กรอบเขตโทษ
นาทีที่ 27: ฟิล โฟเดน ยิงอีกครั้ง แต่บอลไม่เข้ากรอบ
นาทีที่ 30: แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้เตะมุมจากการสกัดของ ราดู ดรากูซิน
นาทีที่ 36: ซาเวนโญ่ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) ยิงด้วยเท้าซ้ายจากนอกเขตโทษ แต่ติดบล็อกแนวรับ
นาทีที่ 39: พาเป้ ซาร์ (สเปอร์ส) ชนะฟรีคิกในแดนกลาง
นาทีที่ 41: ซาเวนโญ่ ยิงจากระยะไกล แต่บอลหลุดเสาออกไป
นาทีที่ 43: ฟิล โฟเดน ได้โอกาสยิงในกรอบ แต่บอลหลุดกรอบ
นาทีที่ 45+3: ผู้ตัดสินเป่านกหวีดจบครึ่งแรก สเปอร์สนำ 2-0 จากการทำประตูของเจมส์ แมดดิสัน
ครึ่งหลัง:
นาทีที่ 46: เริ่มครึ่งหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พยายามเปิดเกมบุกหวังทวงประตูคืน
นาทีที่ 48: ฟิล โฟเด้น ได้โอกาสยิงจากนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลพุ่งข้ามคานไป
นาทีที่ 51: เออร์ลิง ฮาลันด์ โหม่งบอลจากการเปิดของ เควิน เดอ บรอยน์ แต่บอลตรงตัวผู้รักษาประตู อูโก้ โยริส
นาทีที่ 52 (GOAL!): เปโดร ปอร์โร่ ของสเปอร์ส ซัดด้วยเท้าขวาจากนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเสียบมุมบนซ้ายอย่างสุดสวย ส่งสเปอร์สนำห่างเป็น 3-0
นาทีที่ 55: แมนฯ ซิตี้ เปลี่ยนตัว ส่ง แจ็ค กรีลิช ลงมาแทน ซาเวนโญ่ เพื่อเสริมเกมรุก
นาทีที่ 58: เออร์ลิง ฮาลันด์ มีโอกาสยิงในกรอบเขตโทษ แต่ถูก อูโก้ โยริส เซฟไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม
นาทีที่ 62: สเปอร์สเปลี่ยนตัว ส่ง ติโม แวร์เนอร์ ลงมาแทน โดมินิก โซลันกี้ เพื่อเพิ่มความสดในแดนหน้า
นาทีที่ 65: เกมเริ่มเดือดขึ้น มีการฟาวล์บ่อยครั้งในแดนกลาง ผู้ตัดสินต้องเข้ามาเตือนผู้เล่นทั้งสองฝ่าย
นาทีที่ 68: แมนฯ ซิตี้ ได้ฟรีคิกระยะหวังผล เควิน เดอ บรอยน์ ยิงข้ามกำแพง แต่บอลหลุดเสาออกไปนิดเดียว
นาทีที่ 72: สเปอร์สสวนกลับเร็ว ซอน ฮึง-มิน ยิงด้วยเท้าขวา แต่บอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 75: แมนฯ ซิตี้ เปลี่ยนตัวอีกครั้ง ส่ง ริยาด มาห์เรซ ลงมาแทน ฟิล โฟเด้น หวังเพิ่มมิติในการบุก
นาทีที่ 78: แจ็ค กรีลิช ถูกทำฟาวล์ในแดนหน้า แมนฯ ซิตี้ ได้ฟรีคิก แต่จังหวะต่อเนื่องไม่มีประตู
นาทีที่ 80: สเปอร์สมีโอกาสจากการยิงของ ติโม แวร์เนอร์ แต่ เอแดร์ซอน เซฟไว้ได้
นาทีที่ 82: สเปอร์สเปลี่ยนตัว ส่ง เบรนแนน จอห์นสัน ลงมาแทน เจมส์ แมดดิสัน ที่ทำสองประตูในเกมนี้
นาทีที่ 85: แมนฯ ซิตี้ พยายามบุกหนัก แต่แนวรับของสเปอร์สยังคงเหนียวแน่นและป้องกันได้ทุกจังหวะ
นาทีที่ 88: เควิน เดอ บรอยน์ ยิงไกลจากนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลตรงตัว อูโก้ โยริส
นาทีที่ 90: ผู้ตัดสินให้ทดเวลาบาดเจ็บ 4 นาที
นาทีที่ 92: เออร์ลิง ฮาลันด์ มีโอกาสสุดท้าย แต่ยิงไม่ตรงกรอบ
นาทีที่ 93 (GOAL!): เบรนแนน จอห์นสัน ได้บอลจากการจ่ายทะลุของ ติโม แวร์เนอร์ ก่อนซัดด้วยเท้าขวา บอลพุ่งเสียบมุมล่างขวา สเปอร์สนำห่าง 4-0
นาทีที่ 94: ผู้ตัดสินเป่านกหวีดหมดเวลาการแข่งขัน
การบุกมาเอาชนะด้วยสกอร์ 4-0 ในวันนี้ ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงฟอร์มการเล่นที่แข็งแกร่งของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ แต่ยังเป็นการพิสูจน์ถึงความพร้อมของทีมภายใต้การคุมทีมของกุนซือคนใหม่ ด้าน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แม้จะพยายามแก้เกมและเพิ่มแรงกดดันในครึ่งหลัง แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรทีมเยือนได้