วาตารุ เอ็นโด มิดฟิลด์จอมเก๋าทีมชาติญี่ปุ่นของ ลิเวอร์พูล ยืนหยัดสู้ไม่ถอย แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายในเส้นทางค้าแข้งของเขากับทัพ หงส์แดง โดยเจ้าตัวเผยว่าเขายังคงฝึกซ้อมอย่างหนักทุกวัน เพื่อรักษาฟอร์มการเล่นและรอโอกาสกลับมาลงสนามอีกครั้ง
มิดฟิลด์แดนอาทิตย์อุทัยที่ไม่หยุดฝัน
แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา
วาตารุ เอ็นโด ย้ายจาก สตุ๊ตการ์ท มาร่วมทีม ลิเวอร์พูล ในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา และเคยเป็นเสาหลักในแดนกลางที่สร้างความสมดุลให้กับทีมยุค เจอร์เก้น คล็อปป์ โดยในฤดูกาลที่แล้ว เขาลงเล่นไปถึง 43 นัด และเป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญที่ช่วยพาทีมคว้าแชมป์ คาราบาว คัพ อย่างยิ่งใหญ่
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ ลิเวอร์พูล เข้าสู่ยุคการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่มี อาร์เน่อ สล็อต กุนซือชาวดัตช์เข้ามากุมบังเหียน บทบาทของ เอ็นโด ในทีมก็ลดลงอย่างชัดเจน เขาได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเพียงแค่เกมเดียวใน คาราบาว คัพ และถูกใช้งานเป็นตัวสำรองเพียง 5 นัดในฤดูกาลนี้ รวมเวลาลงสนามแค่ 20 นาทีในรายการใหญ่ เช่น พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
การต่อสู้ในทีมที่มีการแข่งขันสูง
เหตุผลสำคัญที่ทำให้ เอ็นโด ต้องตกเป็นตัวสำรอง คือฟอร์มอันยอดเยี่ยมของ ไรอัน กราเฟนแบร์ก ที่สามารถปรับตัวและโชว์ผลงานได้อย่างโดดเด่นในตำแหน่งกองกลางหมายเลข 6 จนกลายเป็นตัวเลือกอันดับแรกของโค้ชสล็อต กระนั้น เอ็นโด ยังคงมุ่งมั่นและมองโลกในแง่บวก โดยเลือกใช้เวลาในการทำงานหนักเพื่อพัฒนาตัวเองต่อไป
ความมุ่งมั่นที่ไม่มีวันสิ้นสุด
ในการให้สัมภาษณ์ล่าสุด วาตารุ เอ็นโด เปิดเผยว่า แม้สถานการณ์ในทีมจะยากลำบาก แต่เขายังคงทุ่มเทเต็มที่ในทุกการฝึกซ้อม “ผมฝึกซ้อมหนักทุกวันเพื่อรักษาสภาพร่างกายของผมเอาไว้ และต้องการแสดงให้เห็นถึงฟอร์มการเล่นระดับสูงอยู่เสมอ” อดีตมิดฟิลด์ตัวเก่งจาก สตุ๊ตการ์ท กล่าวด้วยความมุ่งมั่น
นอกจากการทำงานหนักในสโมสรแล้ว เอ็นโด ยังมองว่าการสร้างผลงานกับทีมชาติญี่ปุ่นเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้เขากลับมาได้รับโอกาสกับ ลิเวอร์พูล อีกครั้ง โดยเจ้าตัวตั้งใจทำผลงานให้ดีที่สุดในทุกนัดที่ลงเล่นให้กับทัพ ซามูไรบลู
บทสรุป: เอ็นโด กับความหวังที่ยังคงอยู่
แม้จะต้องเผชิญกับการแข่งขันที่ดุเดือดในทีม ลิเวอร์พูล แต่ วาตารุ เอ็นโด ไม่เคยละความพยายามที่จะพิสูจน์ตัวเองว่าเขายังคงเป็นผู้เล่นที่มีคุณค่าและพร้อมช่วยทีมในทุกสถานการณ์ เรื่องราวของเขาสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความพยายามที่ไม่มีวันยอมแพ้ ซึ่งเป็นสิ่งที่แฟนบอล ลิเวอร์พูล ทั่วโลกต่างรอคอยที่จะได้เห็นเขากลับมาสู่สนามในฐานะนักเตะที่พัฒนาขึ้นกว่าเดิม
ติดตามข่าวบอลนอกอัพเดทก่อนใครที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา